Friday, May 18, 2018

ภารกิจเวทย์สีเลือด | CUT ตอนที่ 18 ภารกิจเนรมิตได้ดังฝัน



ไม่รอให้ร่างบางทันได้ตกใจหรือตั้งสติ .. ไม่รอให้เปลี่ยนใจทัน ดวงหน้าหล่อเหลาของแวมไพร์ที่ถูกกระตุ้นพลังในตัวให้โหมกระหน่ำพร้อมจะจัดการเหยื่อตรงหน้าเต็มที่ แววตาประกายสีแดงวาววับคู่สวย จ้องสบตากับนักเวทย์หนุ่ม ก่อนก้มลงประกบริมฝีปากทาบทับเรียวปากนุ่มของคนใต้ร่าง 

แขนแกร่งใช้แรงบังคับกดร่างเล็กๆบอบบางนั่นให้เอนราบลงกับเตียงโดยที่ปากยังประกบจูบอยู่แบบนั้น
.. จากนุ่มนวล ดูดกลืนริมฝีปากให้รู้สึกวาบหวาม คนที่ไม่ประสีประสากับเรื่องความรัก พยายามละริมฝีปากออกเมื่อโดนประกบจูบอยู่นาน ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็น แรงขึ้น แรงขึ้น  ตามประกบฉกชิงความหวานทุกองศาการพยายามหันหน้าหนีเพื่อเอาอากาศหายใจของคนน้อง

“พี่สิง.... อื้ออ”

“แฮ่กๆ เดี๋ยวก.. อือออ หายใจไมอะ ”

“อื้อ อื้อ พี่สิง พี่สิง” 
มือบางๆเริ่มใช้กำลังที่ไม่มีทางสู้ได้ ทุบรัวๆบนอก ทั้งดัน ทั้งผลัก แต่แวมไพร์ตัวร้ายก็ไม่มีท่าทีขยับซักนิด

“อึก อื้อ อื้อ อี้อิง เอ็บ” คริสเริ่มดิ้นๆ พยายามเอาขายัน ขยุกขยิกให้คนบนร่างรู้สึกตัวว่าเค้าจะขาดอากาศหายใจตายอยู่แล้ว..
นั่นแหละ ไอ้พี่แวมไพร์ถึงเริ่มได้สติขึ้นมา..

ฮืออออ นี่กะจะฆ่ากันจริงใช่ไหม

“ฮ้า แฮ่กก แฮ่ก” คริสหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดรัวๆเหมือนคนไม่เคยหายใจมาก่อน แลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองที่แตกจนเลือดไหลซิบเพราะโดนรุ่นพี่ตัวร้ายขบกัด ฟันคมๆที่ปัดไปมาจนเจ็บจี๊ดๆยังค้างในความรู้สึก

อา.. แต่ก็รู้สึกดีแฮะ เดี๋ยว ไม่สิ ไม่ได้ไอ้คริสสส แกเป็นพวกมาโซคิสม์รึไงห๊า
อยากจะด่าตัวเอง .. แต่มันรู้สึกดีจริงๆนะ ขออีกทีได้ไหม ฮือ

คริสปรือตามองคนพี่ อย่างมึนเบลอกับรสสัมผัสเอาแต่ใจและรสเลือดบนริมฝีปาก ในแววตาคู่สวยนั้นยังคงมีแววหวาดหวั่นจางๆ ผสมปนเปกันกับอารมณ์ความต้องการ ความโหยหา ยิ่งทำให้สิงโตรู้สึกอยากขย้ำเหยื่อตรงหน้ามากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ

“พี่ขอนะ.. เลือดในกายคริส”
ไม่รู้ตอนไหนที่เสื้อผ้าที่ใส่ถูกปลดกระดุมออกจนหมด ความชำนาญอย่างรวดเร็วนี้ไม่ใช่ธรรมดาแล้ว รู้ตัวอีกทีริมฝีปากที่เมื่อกี๊ประกบปิดปากเขาอยู่ ก็ก้มลงจูบผะแผ่วอยู่ตรงเนินอก ไล่วนลงมาตรงท้อง ชวนรู้สึกเสียวท้องน้อยวูบวาบ

ไม่ใช่แค่ริมฝีปากที่สัมผัสแตะต้องผิวกายเขา แต่การลากผ่านผิวกายตามมาด้วยลิ้นร้อนที่ส่งออกมาเลียเลือดที่ยังทิ้งร่องรอยไว้ตามตัว เลียไปตามบาดแผลที่พาให้ขนลุกปนเจ็บแสบ จนอดประท้วงเบาๆไม่ได้

“อ๊ะ .. เจ็บ ผมเจ็บ พี่สิง”
สิงโตเหลือบมองรุ่นน้องที่มองมาทางเขาเช่นกัน ก่อนจะยิ้มให้เบาๆ

“เดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้วน่า เชื่อพี่”

สิงโตพรมจูบไล่เรื่อยลงไปตามตัวคนใต้ร่าง ที่เริ่มบิดเร่าๆอย่างทรมานกับความรู้สึกตัวเอง .. ไม่ใช่ความเจ็บ แต่เป็นความรู้สึกต้องการที่เริ่มก่อตัวขึ้น

แวมไพร์มองเหยื่อที่เริ่มอ่อนระทวยตามสัมผัสเขา สองมือซุกซนเริ่มยุกยิกพยายามปลดกางเกงคนตรงหน้าที่ขยับหนีมือเขาอย่างเคอะเขิน ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าจะทำยังไงก็หนีไม่พ้นแรงเขาอยู่ดี

ยิ่งขยับหนี ก็ยิ่งพาให้ไฟราคะก่อตัวมากขึ้นเท่านั้น ไม่รู้เจ้าตัวจะรู้ตัวไหม..

สิงโตก้มลงไซร้ซอกคอ ไล้เลีย ดูดดึงตามแรงอารมณ์จนเสียงดังจ้วบจ้าบน่าเขินอายดังสลับกับเสียงหอบเบาๆของคนน้อง ผิวสีขาวจัด ปรากฎรอยรักสีกุหลาบขึ้นเป็นจ้ำๆ

เหยื่อน้อยๆที่หมดทางหนี อย่างคนไม่คิดจะหนี เริ่มรู้สึกได้ว่าทางที่ดีก็ควรทำตามใจซะเลย จะได้ไม่ต้องเสียพลังงานมากนัก ชิงความเป็นต่อด้วยการปั่นหัวให้ไอ้พี่แวมไพร์สุดหล่อมันคลั่งบ้าง.. ทีใครทีมัน

นักเวทย์หนุ่มยกมือข้างนึงขึ้นลูบผมคนพี่ สอดนิ้วเข้าไปลูบไล้เส้นผมสีดำลื่นมือ สางไปมาเบาๆ สิงโตชะงักเล็กน้อย ไม่คิดว่าคนที่ดูเขินอายเมื่อครู่จะแสดงท่าทีเหมือนเหยื่อที่พยายามปั่นหัวเขา..

ถามว่าได้ผลไหม .. ก็ได้ผลทีเดียว เมื่อมือเล็กๆอีกข้างนั้น..

เลื่อนลงมาสัมผัสจุดอ่อนไหว ลูบไปมาเบาๆผ่านเนื้อผ้ากางเกงเดฟสีดำ จนต้องกัดฟันข่มอารมณ์ที่โหมกระหน่ำ .. ส่วนกลางลำตัวเริ่มแสดงความต้องการอย่างกักกั้นไว้ไม่ได้

“คริส อย่าซน”
“ฮ่ะๆๆๆ .. ทำไม พี่เขินผมเหรอ” คริสยิ้มกวนๆให้ ดวงตากลมโตที่น่าหลงใหลทอแสงระยับเหมือนดวงดาว ที่แม้ในความมืดก็ยังเห็นได้ชัด 
“เราตกลงเป็นแฟนกันแล้วไม่ใช่เหรอ คิกๆ”

ดวงดาวสุกใส ส่องสว่าง แววตาซุกซน ที่น่าขย้ำซะให้เข็ด ให้ร้องครวญครางอยู่ใต้ร่างเขา 
ยิ่งคำพูดกวนๆที่ล้อเลียนคำพูดเขาตอนก่อนหน้านี้ บอกเลย ..
คืนนี้ไม่จบง่ายๆแน่เจ้าตัวแสบ

ไม่รอช้า สิงโตปลดกางเกงขายาวสุดแสนจะแฟชั่นของคนน้อง ที่แน่ๆถอดยากถอดเย็น ทั้งแน่น ทั้งแนบเนื้อ ดึงออกอย่างยากลำบาก จนโดนนักเวทย์ตัวยุ่งหัวเราะขำเขาไปอีก 
.. ฮึ่ยย เดี๋ยวจะทำให้กลัวจนหัวเราะไม่ออกเลย
อย่ามาหือกับแวมไพร์ ให้มันรู้ซะบ้าง

“อืออ”
ประกบจูบเข้าไปอีกครา เอาให้สมองมึนเบลอ เคลิบเคลิ้ม จะได้ไม่ทันรู้สึกถึงความเจ็บ ..

เคยได้ยินมาว่า ครั้งแรกคงเจ็บน่าดู .. มองคนใต้ร่างที่ถูกจัดการถอดเสื้อผ้าออกไปจนหมด
เรือนร่างงดงามที่น่าหลงใหลจนแทบอดใจไม่ไหว อยากทำให้เป็นของเขาคนเดียว ยิ่งตอนนี้กับแค่โดนจูบก็อ่อนระทวย มือลูบไล้ตามลำตัวปลุกเร้าความรู้สึกวาบหวามให้คนน้อง 

ก่อนจะค่อยๆเลื่อนมือลงต่ำ
“คริส .. พี่ขอ.. ตีตราแสดงความเป็นเจ้าของ .. จะได้ไม่มีใครมาทำร้ายคนของพี่ได้”
ดวงตาฉ่ำหวานปรือขึ้นมองเขาอย่างมึนๆ ก่อนที่จะรู้สึกถึงความคับแน่นของเรียวนิ้วที่ส่งผ่านเข้ามาได้ร่าง

“อึกก โอ๊ยยย พี่สิง เจ็บๆ”
“อย่าเกร็งสิ ชู่ววส์ ใจเย็นๆ ผ่อนคลายนะคนดี” ยกมือขึ้นลูบผมนักเวทย์ตัวน้อย ที่น่าขย้ำ อยากจะดันกายเข้าไปในร่างจนทนไม่ไหว ความอุ่นร้อนคับแน่นที่นิ้วสัมผัสได้ในตอนนี้ก็แทบพาสติเตลิดไปไกล 
อดทนไว้ เดี๋ยวคนตรงหน้าจะเจ็บ

ค่อยๆขยับนิ้วเข้าออกเบาๆ จากหนึ่งนิ้ว เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆให้ร่างบางได้ปรับตัว หากแต่ก็ยังคับแน่นจนรู้สึกแทบทนไม่ไหว
“คริส พี่ไม่ไหวแล้วนะ.. ขอได้ไหม”
“อึก อาาา อะ อาา พี่สิง”

ไม่มีคำตอบอนุญาต หากแต่แวมไพร์ตัวร้ายก็ไม่ได้คิดจะให้เป็นประโยคคำถามตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มาถึงจุดนี้ .. 
เขาไม่หยุดแน่นอน เตรียมใจไว้เลย

..
สิงโตขยับตัว ดึงนิ้วออก ความรู้สึกวูบโหวงกะทันหันพาให้คริสรู้สึกแปลกๆอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ก่อนที่คนพี่จะจัดการถอดเสื้อผ้าที่เกะกะขวางทางของตัวเองออก ทาบทับร่างจนแนบชิดร่างข้างใต้ ค่อยๆดันแก่นกายของตัวเองเข้าไปในร่าง ความคับแน่นที่มากกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า ทำให้ร่างบางของหนุ่มรุ่นน้องเกร็งตัวด้วยความเจ็บ น้ำตารื้นซึมหางตาอย่างห้ามไม่อยู่ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากผลักไสคนพี่ออกไป

“ฮึกก ฮ้าา พี่สิง อ๊าาา เจ็บ”
เสียงครางแว่วหวานปนเจ็บปวด เรียกเลือดในกายให้พลุ่งพล่านไม่หยุดหย่อน

ขอโทษนะ คือสงสารก็สงสารอยู่ แต่สงสารตัวเองด้วย ทนหน่อย พี่ไม่ไหวแล้วเว้ยย

“อา คริส”
แวมไพร์หนุ่มก้มจูบปากเด็กน้อยของเขาเบาๆอย่างปลอบประโลม ยกมือขึ้นจับประสานมือทั้งสองข้างแนบแน่นอย่างส่งผ่านความรู้สึก ทั้งรัก ทั้งหลง ทั้งโหยหา ต้องการจนจะทนไม่ไหว
ค่อยๆดันร่างตัวเองเข้าไปลึกขึ้นอีก ก่อนจะแช่ค้างไว้อย่างนั้น ให้อีกคนได้ปรับตัว

“อ๊าาา..
แรงตอดรัดทำให้เขาแทบคลั่ง แน่นจนไม่แน่ใจว่าจะขยับตัวได้รึเปล่าเลยตอนนี้

สิงโตเอื้อมมือไปช่วยผ่อนคลายให้คนน้อง รูดรั้งสัมผัสส่วนอ่อนไหวของอีกคน เบี่ยงเบนความสนใจ ให้ลืมความเกร็งลงชั่วขณะ
“อ๊ะ.. พี่สิง อย่า อ๊า”
“รู้สึกดีขึ้นใช่ไหม.. อย่าพึ่งรีบเสร็จล่ะ” 
รอยยิ้มร้ายยังไม่จางหายไป แววตาเจ้าเล่ห์ส่งตรงมาที่เขา สบตาจ้องมองอยู่อย่างนั้นจนรู้สึกเขิน ก่อนคนพี่จะขยับโยกตัว แรงกระแทกเบาๆ นอกจากความเจ็บปวดที่ยังหลงเหลืออยู่มีความเสียวซ่านเพิ่มเข้ามา

“อา.. พี่สิง อืออ” ร่างเล็กเบือนหน้าหลบ รู้สึกหน้าร้อนวาบ นี่เขากำลัง.. เป็นของคนตรงหน้าทั้งกาย และใจ
ใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ใกล้จนลมหายใจรดกัน สัมผัสอุ่นร้อนภายในกายพาให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ

.. ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน..
ความรู้สึกซับซ้อนลุ่มลึก ที่ไม่สามารถหาคำจำกัดความได้
เข้าใจเดี๋ยวนั้นเอง.. ความรักช่างไม่มีนิยาม

จะคำไหนก็ไม่เหมาะเอามาเป็นความหมายของคำคำนี้ทั้งนั้น
มันซับซ้อนเกินไป
จะเข้าใจก็ต่อเมื่อได้สัมผัสมันจริงๆ..

แรงกระแทกกระทั้นอย่างต่อเนื่องพาให้สมองขาวโพลน คริสโอบกอดคนพี่แน่น มือบางจิกอยู่บนหลังสิงโตระบายความเสียวซ่าน ยิ่งยามที่แรงกระแทกกระทั้นหนักหน่วงขึ้นอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
..อ๊า พี่สิง อะ อ๊าาาา อ่ะ อะ อาาา”

“อา.. คริส .. พี่ขอ … หัวใจของคริส ขอให้เป็นของพี่คนเดียวนะ .. ตลอดกาล”
เสียงครางต่ำที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของหนุ่มรุ่นพี่ ดังก้องอยู่ในหัวเขา 
คำพูดที่เต็มไปด้วยความรัก โดยไม่มีคำว่ารัก ยังก้องกังวานหวานหู
.. มีความสุขจัง.. ความรู้สึกที่แสนพิเศษ
เมื่อได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษแค่ไหน..

ในห้องแอร์เย็นเฉียบที่เย็นขึ้นหลายเท่า ทุกครั้งที่แวมไพร์ตัวร้ายอยู่ด้วย เขาเริ่มเข้าใจกระจ่างก็พึ่งตอนนี้ แต่ไม่เคยมีซักครั้งที่รู้สึกหนาวเหน็บ 
เพราะอ้อมกอดอบอุ่นที่ส่งมาให้ในทุกค่ำคืน

วิ๊ง วิ๊ง
แสงวาววับเหมือนกากเพชร แวววาว คลับคล้ายดวงดาวพราวระยับบนฟากฟ้า เกล็ดน้ำแข็งวาววับเป็นเพชรๆสีขาวประกายเงิน ระยิบระยับ ส่องประกายในความมืดรอบๆตัวพวกเขาเหมือนเวทมนตร์อันแสนงดงาม เกล็ดหิมะเกล็ดเล็ก ร่วงลงมาจากท้องฟ้าที่เหมือนถูกเนรมิตขึ้น ทั้งที่ห้องมีเพดานกั้นไม่อาจมองเห็นท้องฟ้าได้ก็ตาม

จากเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยส่องแสงระยิบระยับร่วงหล่นรอบๆตัวพวกเขา เกล็ดหนึ่งร่วงหล่นเบาๆไร้น้ำหนักเหมือนขนนก  ตกระเรื่อยไปทั่วบริเวณจนเกือบจะทั่วทั้งห้อง เกล็ดน้ำแข็งรูปทรงสวยงามแสนเปราะบาง หล่นลงมาซักพักก็สลายไป และเริ่มต้นหล่นจากฟากฟ้าที่มองไม่เห็นอีกครั้ง..

ไม่ต่างจากหัวใจดวงน้อยๆ ที่ต้องดูแลทนุถนอม
..แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เวทมนตร์
เวทมนตร์ที่ไม่ได้ถูกเสก แต่เหมือนความรู้สึกของนักเวทย์หนุ่มจะสามารถสร้างความแปรปรวนของสภาพอากาศได้ แม้จะไม่ได้ลงมือร่ายเวทย์ก็ตาม
..สวยงามอย่างน่ามหัศจรรย์..
เหมือนเป็นพยานความรักของพวกเขา ..
แม้ในค่ำคืนที่เหน็บหนาว ก็ยังมีเกล็ดหิมะแสนสวยงามเหมือนอยู่ในความฝัน

สิงโตมองนักเวทย์หนุ่มที่ดูตกใจระคนเคลิ้มกับความสวยงามตรงหน้าไม่ต่างจากเขา ก่อนจะก้มลงจูบเบาๆ ด้วยความรักใคร่
“รัก.. พี่รักคริสนะคริสคือเวทมนตร์ที่วิเศษสุดในชีวิตพี่เลย”
“อือ ผมก็รัก พี่ .. รักที่สุด”

จังหวะรักร้อนแรง เนิ่นนาน พาให้ร่างทั้งร่างโยกไปตามแรงสั่นไหว
ท่ามกลางเวทมนตร์วิเศษ แสงจันทร์ ความมืดมิดและหนาวเหน็บ
ร่างสองร่างที่ผสานกายเป็นหนึ่งเดียวกัน รวมถึงหัวใจด้วย

“อึก อะ อ๊า อา อะ อะ อาาา อ๊า พี่.. พี่สิง คริสไม่ไหวแล้ว อ๊าาาาาา”
“อืมมม คริส คริส อึก อาาา”

น้ำรักเปรอะเปื้อนถูกตัวคนพี่ อีกส่วนหนึ่งถูกปลดปล่อยเข้าร่างคนที่นอนหอบหายใจหมดเรี่ยวแรง น้ำสีขาวขุ่นไหลล้นทะลักออกจากกายบางเปรอะเปื้อนที่นอน สิงโตทิ้งตัวลง หอบเหนื่อยหมดแรงไม่ต่างกัน ก่อนดึงร่างคริสเข้ามากอดแนบกาย




---- กลับไปอ่าน Dek-D -----

Friday, May 4, 2018

ภารกิจเวทย์สีเลือด | CUT ตอนที่14 ภารกิจผิดที่ความรู้สึก

“อื้ออ อื้อ”สิงโตกระแทกจูบลงไปอีกครา ดูดดึงริมฝีปากจนเจ็บแสบ บังคับให้ปากบางเผยออ้า รับเรียวลิ้นเข้าควานหาความหวานภายใน น้ำใสๆไหลซึมตามมุมปากยามร่างตรงหน้าพยายามหนีจะเอาอากาศหายใจ เขาปล่อยออกมาชั่วขณะก่อนกดปิดปากลงไปเนิ่นนาน 


มือสองข้างปล่อยออกจากข้อมือที่ไม่มีทางสู้แรงได้ อาศัยแรงกดทับจากลำตัว ก่อนที่มือจะเปลี่ยนมาทำหน้าที่ ปลดกระดุมเสื้อคนใต้ร่างทีละเม็ดจนหมด 


เสื้อผ้าหลุดรุ่ยแต่คริสก็ไม่ยอมเลิกพยศให้เขาถอดออกได้ หากแต่สิงโตก็ไม่ได้สนใจ กดริมฝีปาก ประทับตามตัวจนขึ้นจ้ำแดงตามรอยดูดดึง ร่างที่ดิ้นเร่าๆทั้งเสื้อผ้าหลุดลุ่ย โหมไฟราคะเขายิ่งลุกโชนจนทนไม่ไหว


“อ๊ะ.. เจ็บ” มือเล็กๆพยายามดันหน้าเขาออกจากตัว แต่ก็เหมือนเดิม ไม่สำเร็จ


“สู้สิ พี่รู้ว่าคริสไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น ทำไมถึงไม่ยอมสู้ล่ะ” สิงโตผละออกมองคนใต้ร่าง แววตาสบกันชั่วขณะ ไม่สามารถคาดเดาความรู้สึกของอีกฝ่ายได้เลย

สิงโตลูบมือลงไปบนอกบาง มือข้างหนึ่งตวัดผ่านตุ่มไตจนคนใต้ร่างสั่นสะท้านด้วยความรู้สึกบางอย่างที่จู่โจม


“อ..อย่า” เสียงสั่นเครือตามแรงอารมณ์ พยายามพลิกตัวหลบสัมผัสจากมือเขา ในขณะเดียวกัน ใบหน้าน่ารักแดงระเรื่อก็ดูจะปิดความรู้สึกวาบหวามจากสัมผัสไม่มิด


..จิตใจ ร่างกาย สมอง ที่ไม่สัมพันธ์กัน..


“เหมือนที่คริสสู้กับไอ้เฟรมไง สู้สิ” หลังจากและเล็มช่วงอกสองข้างจนพอใจ สิงโตเงยหน้าขึ้น สีหน้าร้ายๆของคนตรงหน้า ก็ยังพาให้คริสรู้สึกถึงอันตราย เป็นอีกครั้งที่ตอบตัวเองไม่ได้ว่า ทำไมถึงรู้สึกดีกับความอันตรายนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่ควรเลย


“แสดงพลังออกมาสิ ในตอนที่อยู่ในจุดอันตรายแบบนี้ ทำร้ายพี่ ให้มันเจ็บไปกว่านี้ดิ” เสียงแข็งกร้าวของคนตรงหน้ายังบอกถึงอารมณ์ชัดเจน นอกจากไฟราคะและโทสะในตอนนี้ คริสยังมองไม่เห็นทาง ไม่รู้จะหลุดพ้นจากตรงนี้ได้ยังไง


จนกระทั่ง

สิงโตเอาปากกาวางบนมือคริส หากแต่ร่างกายก็ไม่ได้ขยับถอย

“คริสสู้ไม่ได้.. เพราะไม่มีอาวุธใช่ไหม”



“พี่สิง..”

คริสไม่ได้อยากทำร้าย.. ไม่เคยเลย



“ตอนนี้มีแล้ว จัดการพี่เลยสิ”



พรึ่บ

ไฟทั้งห้องมืดดับทันทีที่สิงโตพูดจบประโยค มีเพียงแสงจันทร์ดวงกลมส่องสว่างในคืนนี้ที่ลอดผ่านหน้าต่าง ทำให้ทั้งห้องมองเห็นเป็นสีเหลืองนวลในความมืดมิด




“ถ้าคริสไม่ทำ งั้นพี่จะจัดการคริสนะ เลือกเอา”

..



“มีแค่ผู้ล่า กับผู้ถูกล่า”


แรงที่คลายลงจากการกดทับทำให้คริสรีบยันกายขยับถอยออกจากคนเป็นพี่ หากแต่ไม่ถึงนาที ร่างเขาก็ถูกดันจนหลังสัมผัสกับหัวเตียง ใบหน้าเรียบเฉยดูมีสเน่ห์แบบลึกลับในความมืดมิดรับกับดวงตาสีแดงจางๆ ในขณะเดียวกันก็ดูน่าเกรงกลัว มือแกร่งล้อมกรอบเขาไว้ให้หนีไปไหนไม่รอด



คริสกำปากกาในมือแน่นจนเหงื่อซึม หากแต่ไม่มีการลงมือใดๆ

“คริสเลือกเองนะ พี่ให้โอกาสแล้วที่จะจัดการพี่ แต่คริสไม่ทำ”



ด้วยความเร็วและแรงที่มากกว่าเดิม กว่าจะรู้ตัว สิงโตก้มลงขบเม้มรอยรักบนต้นคออีกครั้ง แต่คราวนี้รู้สึกถึงความแสบจี๊ดๆ ถึงจะไม่มากจนหวาดกลัว แต่ความรู้สึกเหมือนโดนอะไรบาดพร้อมสัมผัสชื้นๆไหลลงที่คอทำให้รู้สึกตกใจ



“อ๊ะ..” คริสมองหยดเลือดที่ไหลลงมาจากต้นคอละลงไปบนเสื้อจนซึมสีแดงจางๆ พลางมองหน้าเงาที่คร่อมทาบทับร่างเขา



.. พี่สิง ทำอะไรน่ะ ..

คริสถอยร่นแทบจะผสานร่างกับหัวเตียง 



ไม่มีทางหนีไปได้

..นอกจากใช้เวทย์..

แต่เขา..



สิงโตใช้ลิ้นเลียรอยเลือดที่หยดจากแนวไหปลาร้าระเรื่อยขึ้นมาผ่านลำคอขาวเนียนจนถึงรอยแผลเล็กๆที่ตัวเองเป็นคนทำ 



ดันตัวให้ร่างที่ยังทำอะไรไม่ถูกลงนอนราบกับเตียงอีกครา มือซุกซนสัมผัสปะป่ายผ่านกางเกงยีนส์แนบเนื้อโดนจุดอ่อนไหวกลางลำตัว ร่างเล็กสะดุ้ง



“พี่สิง จะทำอะไร อย่า”

“ชู่วว อย่าดื้อสิ ถ้าไม่อยากให้ทำ ก็หยุดพี่”




สิงโตไล้เลียตามซอกคอ เก็บเกี่ยวหยดเลือด มือก็ทำหน้าที่ จากเพียงแค่ปัดผ่านกลายเป็นปลดกระดุมกางเกง พยายามดึงกางเกงออกจากร่างที่ยุกยิกขยับตัวหนี หากแต่ดวงตาปรือปรอยคู่นั้นกับแสดงออกถึงความต้องการและเชื้อเชิญอย่างตรงกันข้าม



กางเกงถูกดึงออกจากตัว ในขณะที่คริสยังคงเผลอไผลกับสัมผัสจากลิ้นอุ่นที่ลามเลียไปทั่วตัวเขาแล้วตอนนี้ ไม่ใช่แค่เพียงซอกคอ ความรู้สึกวาบหวามเข้าจู่โจม และสิงโตเหมือนจะรู้ กวาดลิ้นปลุกเร้าเหยื่อของเขาอย่างชำนาญ จากใบหู ต้นคอ ลงไปยังอก หน้าท้องแบนราบ ไล้วนขึ้นข้างบนใหม่ ในขณะที่มือก็ล้วงเข้าไปสัมผัสอุ่นไอกลางตัวของคนที่ไม่ทันตั้งตัวดี แถมร่างกายยังทรยศ เมื่อส่วนนั้นเริ่มแข็งขืนจากการถูกปลุกเร้า 



“อ่ะ อาา” ร่างทั้งร่างรู้สึกอ่อนระทวยแทบจะทันทีที่โดนสัมผัส เอื้อมมือมาจับแขนรุ่นพี่ที่กอบกุมสัมผัสส่วนอ่อนไหวเขา



สิงโตมองร่างตรงหน้าที่แสนยั่วยวน ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีไม่มีอยู่ในสมอง ตอนนี้มีแต่ราคะความกระหายอยากครอบครองคนตรงหน้า และในขณะเดียวกันก็รู้สึกหงุดหงิดที่คริสยังดื้อปิดบังบางอย่างกับเขา แม้กระทั่ง จนถึงตอนนี้แล้ว ก็ไม่มีทีท่าจะใช้ปากกาที่กำแน่นในมือ



“เหตุผลที่คริสยังอยู่ตรงนี้ มันมีพี่อยู่ในนั้นบ้างไหม..”

รุ่นพี่หนุ่มพึมพำเสียงแผ่ว แต่คริสก็ได้ยินชัดเจน 



นักเวทย์หนุ่มไม่ตอบอะไร สมองรู้สึกขาวโพลนยามรุ่นพี่ขยับมือปลุกเร้าแก่นกาย จนความรู้สึกโหมกระหน่ำ ไม่อยากยอมรับว่า เป็นความรู้สึกดี แต่ในใจก็มีความสับสนอัดแน่นจนปวดใจ



“อ๊า พี่สิง ปล่อยผมเถอะ..”

“บอกก่อนสิว่าคริสต้องการอะไร”



“บ..บอก คริส บอก ไม่ได้ อึก”

กัดริมฝีปาก ข่มอารมณ์ที่อีกนิดต้องสร้างเรื่องน่าอายแน่ คริสขยับตัวหนีมือที่ไม่ปล่อยเขาเป็นอิสระ แถมยังเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ



เกิดมาจะในโลกไหนก็ไม่เคยโดนผู้ชายที่ไหนทำแบบนี้มาก่อน ไม่ว่าเวทย์เขาจะอ่อนแอกว่านักเวทย์เต็มตัว แต่แค่การร่ายเวทย์ช่วยหนีจากสถานการณ์อันตราย ไม่ได้ยากเกินความสามารถเขา ไม่นับรวมเวทย์หายตัวที่ต้องใช้สมาธิมากๆ เหตุการณ์จำพวกนี้ไม่อาจใช้ได้ดังใจ



แต่ไม่รู้ทำไมครั้งนี้.. มือสั่นระริกของเขาไม่ยอมร่ายเวทย์ใส่คนตรงหน้า ทั้งที่มีอาวุธอยู่ในมือ



ความรู้สึกปวดหนึบกลางลำตัวมากขึ้น มือบางพยายามดึงมือสิงโตออกแต่ก็ไม่ขยับซักนิด รอยยิ้มร้ายๆที่แสนน่าหลงใหล ยังจ้องเขาไม่วางตา สบตากันแล้วพาให้ใจสั่น ทั้งที่ไม่ควรมีให้กับคนที่ใช้กำลังบังคับเขาตอนนี้



สิงโตประกบปากจูบ นุ่มนวลกว่าก่อนหน้า บังคับคนที่กัดริมฝีปากกลั้นเสียงตัวเองจนห้อเลือด จูบบดเบียด ย้ำซ้ำราวกับต้องการส่งผ่านความรู้สึกทุกอย่าง




“ส่งเสียงหน่อย พี่อยากได้ยิน”



ในเมื่อต่างฝ่ายต่างยังหาคำตอบกับความสับสนไม่ได้ รู้เพียงร่างกายกำลังปล่อยมันดำเนินไปตามความรู้สึก 



..ถึงรู้ว่ามันอาจจะพังพินาศไม่มีชิ้นดี



ต่างคนก็ต่างก้าวลงไปในหุบเหว

แต่อะไรก็หยุดได้ยาก เมื่อหัวใจไม่ได้ทำงานตามสมอง




“ฮ่ะ อ่ะ พี่สิง อื้อ” ร่างบางจิกเล็บลงบนแขนคนพี่ระบายความเสียวซ่าน



“คริส..” เสียงนุ่มที่คลอเคลียอยู่ตรงริมฝีปาก เหมือนโดนคำสาปร่างบางเผลอละมือที่ขัดขืนดันแขนแวมไพร์หนุ่ม เปลี่ยนมาขยุ้มผมสีดำขลับ




หัวใจของเขา ร่างกายของเขา มันทรยศเจ้าของเหลือเกิน



คริสปรือตามองสายตาที่จับจ้องเขาอยู่ยามที่มือนั้นยังทำหน้าที่ปลุกเร้า รู้สึกหน้าร้อนวูบ สีหน้าคนพี่ที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา พาให้ใจเต้นรัว รู้สึกไวต่อสัมผัสที่ถูกอีกฝ่ายปรนเปรอให้ กำลังจะถึงฝั่งฝัน อายสายตาคู่นั้นจนต้องเบือนหน้าหนี



“อืออ อ่ะ อ๊ะ อา อาา”

ยิ่งได้ยินเสียงครางแว่วหวาน สิงโตก็แทบเตลิดไปไกล



“มองพี่หน่อย อยากเห็นเวลาเรามีความสุข”

เสียงทุ้มนุ่ม อ่อนโยน พาเขาติดกับอีกครั้ง ร่างกายที่กึ่งต่อต้านกึ่งเต็มใจเกิดความสับสน จนอดมองตามคนพี่อย่างถูกชักจูง



เขาสบตากัน หลายสิ่งหลายอย่างแสดงออกผ่านสายตา ความรู้สึกที่น่าจะซับซ้อนพอกัน หัวใจต่างฝ่ายต่างคาดเดาค้นหา 

..หนึ่งในความรู้สึกพันล้าน พวกเขาพยายามค้นหาคำคำหนึ่ง

..คำว่ารัก..




“อะ อะ อา ฮ้า อะ อื้อ อือ อะ อ๊าาาา” 



มือเรียวเร่งจังหวะรัก จนร่างบางทนไม่ไหว ร่างกายกระตุกเกร็งปลดปล่อยน้ำอุ่นร้อนคามือคนพี่ สิงโตก้มลงจุ้บปากอีกฝ่ายเบาๆก่อนผละตัวถอยเล็กน้อย หนุ่มนักเวทย์รีบตั้งสติที่กระเจิดกระเจิง ดึงผ้าห่มบังร่างลวกๆ ขยับตัวหนีหลังชิดหัวเตียงอย่างอ่อนแรง






---กลับไปอ่านต่อที่ Dek-d --

SOFAR Always | CUT SOFAR.04

 "อ๊ะ อา..ฮ๊า...."   เสียงครางแว่วหวานในร้านที่เงียบงัน มือที่รูดรั้งยังไม่ผ่อนแรงจนความต้องการจะแตะถึงจุดสูงสุด .. ส่วนอ่อนไหวเริ...