Wednesday, November 20, 2019
MOTEL | CUT.32 - V.I.P
“คุณจ่ายเงิน ผมก็บริการเท่านั้น ผมไม่เคยรู้สึกอะไรมากกว่านั้นเลย..คุณสิงโต
..เพราะงั้น คุณ.. อยู่นานๆอีกนิดได้ไหม”
เสียงกระซิบแผ่วเบาข้างหู
จากมุมนี้ มองเห็นเขาอยู่ในระยะสายตา ร่างบอบบางคร่อมอยู่บนตัว ผิวขาวจัดแดงระเรื่อร้อนผ่าว
ถ้อยคำมึนๆน้ำเสียงเกเรที่ไม่ปกติและการกระทำของเขาในตอนนี้ราวกับจะกลั่นแกล้งกัน
เข้ามาใกล้..
ใกล้เกินไปแล้ว
..ปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ดีแน่
ไม่ดีกับตัวเขานั่นแหละ
ผมตั้งสติได้ ขยับจะยันตัวลุกขึ้น แต่ยังไม่ทันได้ทำอย่างใจ อีกฝ่ายกลับโถมกายใช้มือดันกดไหล่ผมลงกับเตียงเหมือนเดิม
เขาโน้มหน้าลงมาใกล้จนแทบไม่มีช่องว่างระหว่างเรา แววตาใสแวววาวแม้ดูมึนเบลออ่อนแรง แต่มันสะท้อนภาพผมชัดกว่ายามปกติเสียอีก
เมื่อเราใกล้กันแบบนี้
สบตากันในระยะใกล้แบบนี้ ราวกับจะค้นหาอะไรบางอย่างที่ต่างฝ่ายต่างซุกซ่อนมันเอาไว้จากสายตา
แมวน้อยแตะริมฝีปากลงทาบทับริมฝีปากผม นิ่งค้างไม่ยอมถอนจูบออก แตะนิ่งๆอยู่นาน
เราใกล้กันจนผมมองเห็นดวงตาสั่นไหวแสนสวยคู่นั้น
แววตาที่มองมาราวกับมีคำถาม
ราวกับมีหลายสิ่งหลายอย่างตีรวนกับตัวเอง
คำถามที่ผมก็ไม่แน่ใจ ..
เขากำลังค้นหาคำตอบบางอย่างจากผม
หรือค้นหาสิ่งใดจากตัวเองกันแน่
ปลายลิ้นอุ่นแตะสัมผัสปากผมเบาๆไม่ทำอะไรมากกว่านั้น แต่แค่นั้นก็ทำให้ผมแทบเป็นบ้าตาย
ท่าทีเหมือนแมวน้อยไร้เดียงสา ริอาจอยากลองปราบราชสีห์
หรือไม่ก็แมวยั่วสวาท ที่หลอกทำสติเจ้าป่ากระเจิดกระเจิงจนเสียมาดไม่มีชิ้นดี
ผมมั่นใจว่าน่าจะเป็นอย่างหลัง..
เขาไม่ควรทำแบบนี้เลย ผมไม่ใช่คนมีความอดทนนักหรอกนะครับ
..ผมยกมือสองข้างขึ้นอย่างลืมตัว สมองส่วนร้ายเกิดความต้องการอย่างรุนแรง ที่จะกดท้ายทอยเขาแล้ว สอดมือเข้าไปในเส้นผมนุ่มมือ บดขยี้จูบ แรงๆเร็วๆ
อยากสอดลิ้นเข้าไปในปากเนียนนุ่ม อยาก...
แต่ก็ได้แต่กำมือแน่นข่มอารมณ์
เปลี่ยนเป็นค่อยๆดันไหล่อีกฝ่ายออกห่างนิดหน่อย
แมวน้อยผละออก ถอนริมฝีปาก ดวงตามึนๆเพราะพิษไข้มองผมอย่างสงสัยในท่าที
ไม่ครับ ผมไม่ได้ใจดีขนาดว่าเขาทำแบบนี้แล้วผมจะเฉยเป็นสุภาพบุรุษ จะไม่อยากทำอะไรอะไรอย่างว่า แน่นอนว่านั่นคงไม่เกิดขึ้นกับคนอย่างผม
..แค่อยากมั่นใจ ว่าเขายังมีสติรับรู้ทุกการกระทำทั้งของผมและของตัวเอง ก็แค่นั้น
คริสกระพริบตาปริบมองผมที่เลิกคิ้วขึ้นแทนคำถาม
เขาขยับมือที่ค้ำเตียง ลดระยะห่างลงมาแนบชิด ศีรษะซบอยู่ที่ซอกคอ ออดอ้อนเหมือนแมวเหมียวตัวน้อย ใกล้จนผมได้กลิ่นหอมๆจากเส้นผมเขา
อืม เล่นอะไรครับเนี่ย
หรือไม่สบายแล้วเป็นแบบนี้
ไม่ไหวนะครับ ผมคงทนไม่ไหว
"อ้อนอะไรครับ หืม"
ผมยกมือลูบเส้นผมเขาไปมา อีกฝ่ายยังนอนทับตัวผม ซุกหน้าคลอเคลีย
"ไม่สบายก็นอนพักได้แล้ว ไม่หายป่วยผมไม่รู้ด้วยนะ"
เขาเงียบไปซักพัก นอนก้มหน้าซุกอยู่แบบนั้น ไม่รู้หลับหรือเปล่า ถ้าจะนอนแบบนี้ทั้งคืนผมก็ไม่ว่าอะไรหรอก .. แค่รู้สึกอึดอัดไม่สบายตัวเท่านั้น ขยันทำร้ายกันเหลือเกิน
ผมปล่อยตัวเองอยู่กับความเงียบและความคิด ..
คนข้างกายที่หมดแรงพยศ ซุกซบบนตัวผม
แต่ไม่ทันไร เสียงอู้อี้ที่เอ่ยขุ่นๆ คำพูดเพ้อๆไม่มีต้นสายปลายเหตุทำเอาผมเกือบหลุดหัวเราะออกมา
"ผมไม่น่ามาเจอลูกค้าแบบคุณเลย.. คุณสิงโต"
"ทำไมล่ะครับ คริสรังเกียจผมเหรอ"
ผมพูดตัดพ้อ แต่น้ำเสียงติดจะกวนของผมมันคงไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบนั้นเท่าไหร่
"อืม"
เขาส่งเสียงฮึมฮัมในลำคอ ไม่รู้ตอบรับคำถามผม หรือพึมพำกับตัวเอง แมวน้อยผละออกจากกายผม พลิกตัวกลับไปนอนหงายอยู่ข้างๆ ดวงตากลมโตเหม่อมองเพดาน
"ผม ไม่ชอบเลย"
ผมหันมองคนที่พูดเหมือนย้ำคำนั้นให้ตัวเองฟังมากกว่าจะพูดกับผม
"ผมก็เหมือนกัน ไม่ชอบ"
..ไม่ชอบให้ใจเต้นแบบนี้
..ไม่ชอบ ความรู้สึกที่ควบคุมไม่ได้ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
..ไม่ชอบ เพลย์บอยแบบผม ต้องสูญเสียความเป็นตัวเองไปแค่ไหน
ไม่ชอบ
ส่งรอยยิ้มบางๆให้คนที่มองตอบกลับมา แมวน้อยเบือนหน้าหลบตาทันที
หึ
และเพราะแบบนั้น ความมือไวของผมมันแสดงออกไปตามความรู้สึก
ขยับแขนข้างที่เขาเผลอพลิกตัวลงมานอนหนุนทับแขนผมอยู่ ตวัดร่างแมวน้อยพลิกกลับขึ้นมาบนกาย เขาเสียหลักตกใจ ยันมือกับอกผมทรงตัว
"ใครสั่งใครสอนให้อ้อนคนที่ไม่ชอบครับ"
"อ่ะ.. ใครอ้อนคุณวะ ปล่อย"
"ไม่"
"คุณสิงโต"
เสียงมึนๆที่อ่อนกว่าปกติหลายเลเวล ผมเองก็ไม่อยากรังแกคนป่วยหรอกนะ
แค่เขาเรียกชื่อผมถูก รู้ว่าคนข้างๆเป็นผม ก็พอใจแล้ว
"นอนพักได้แล้ว มานี่มา"
ผมกระชับกอดคนที่นอนอยู่บนตัวแน่นขึ้น
อยากทำร้ายเขาใจจะขาด อยากให้ร้องครวญครางเรียกหาผม
อยากแสดงทุกความรู้สึกให้เขารู้เหมือนครั้งแรกและทุกครั้ง ตลอดมา
แต่ตอนนี้
เขาไม่สบาย .. คงได้แค่กอดไปก่อน
"คุณไม่อยากเหรอ"
หืม?!
อยู่ๆเขาก็เอ่ยถามเหมือนอ่านใจผมได้ยังไงอย่างงั้น
คริสยันตัวเองออกจากอ้อมกอด ผมเลยเปลี่ยนมาโอบเอวเขาไว้หลวมๆ
"เห็นคุณบอกว่าคุณชอบ"
ครับ ..แน่นอนว่าผมชอบ ..
"เพราะเซ็กส์ไม่ใช่เหรอ..ที่ทำให้เราอยู่ตรงนี้"
.. หรือแมวน้อยกำลังสอบสวน ค้นหาคำตอบจากผม ..
แต่ผมไม่เคยปิดตัวตนของตัวเองมานานมากแล้ว .. ตั้งแต่ตอนแรกจนตอนนี้
"คุณ.. จ่ายเงินให้ผมบริการให้ไม่ใช่เหรอ คุณสิงโต"
ไม่ว่าเขาถามจะเอาคำตอบ หรือกำลังเพ้อเพราะพิษไข้ ผมคิดว่าผมคงต้องบอกให้เขาเข้าใจ .. ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็บอกไปแล้วรอบหนึ่ง
แต่ผิดคาด .. เมื่อผมยังไม่ทันจะได้พูดตอบอะไรออกไป รู้สึกได้ว่ามือบางๆของเขาเริ่มอยู่ไม่สุข ไม่คิดจะฟังอะไรด้วยซ้ำแล้วล่ะมั้ง ...
?!
ลูบไล้จากเสื้อ ปัดป่ายมือลงไปที่เป้ากางเกงผม ส่วนนั้นที่แค่โดนมือเขาสัมผัสเริ่มจะ..มีอารมณ์แปลกๆขึ้นมา
ไม่พอ .. ทำท่าจะปลดกระดุมกางเกงออกด้วย
มือไวใจเร็วกว่าผมอีกนะครับ
ผมรีบเอามือจับมือเขาไว้ทันที
"นอนครับ ป่วยแล้วทำไมซนจัง"
"ไม่อยากเหรอ .."
เสียงหวานๆเอ่ยเพ้อซ้ำคำเดิมอีกครั้ง ปรือตามอง
"อยากแต่ไม่ทำ ผมไม่ได้ชอบคริสเพราะแค่เ..."
เขากระแทกจูบปิดเสียงพูดของผมรุนแรง รสจูบที่ไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนก่อนหน้านี้
อันที่จริง .. ที่เขาต่อต้านผมมาตลอด น้อยครั้งที่ผมรู้จักตัวตนในเรื่องบนเตียงของเขาจริงๆ
ไม่ได้อ่อนหัดอย่างที่คิด ถึงไม่เท่าเพลย์บอยอย่างผม .. แต่เขาทำผมใจสั่นไม่ใช่น้อยเลยจริงๆ
"งั้นผมทำเอง"
ผมอยากจะบอกให้เขาหยุด .. กลัวจะไข้ขึ้นหนักกว่าเก่า .. หรือไม่แน่อาจจะเป็นผมเนี่ยแหละ
ยามที่เขาด่วนสรุปด้วยตัวเอง ไม่ฟังผม เลื่อนมือลงต่ำปลดซิบรวดเร็วอย่างชำนาญ
นี่เขาเคยบริการคนอื่นจริงรึเปล่า
ผมชักจะไม่พอใจแล้วนะ
.. อย่าบอกนะว่า กำลัง หึง เขา ... ความรู้สึกแบบนี้มัน ใช่ แน่ๆ
บ้าชะมัด
"คริส"
ผมกดเสียงต่ำดุใส่อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน นอกจากการกวนประสาทเขา ตอนนี้กลับรู้สึกเหมือนโดนเขากวนกลับซะมากกว่า หรือไม่ก็เพราะอารมณ์หงุดหงิดงุ่นง่านที่ว่ามันเข้าครอบงำ
แมวน้อยยังไม่ยอมหยุดดื้อ มือร้อนผ่าวขยับพยายามดึงกางเกงผมออก สัมผัสหนักๆหยอกเย้ากับส่วนอ่อนไหวแข็งขืนใต้ชั้นใน ปลุกอารมณ์อย่างที่ปกติผมคงฟิน
อา..จริงๆก็ฟินแหละครับ แต่ว่า เขากำลังดื้อ ไม่สบาย และผมไม่ชอบเลย
"อะไร .. หรือคุณไม่ชอบ งั้นผม..ไม่ใช้มือก็ได้"
..ผมก็ไม่รู้ว่าไม่ชอบในประเด็นไหนกันแน่..
และเขารู้ได้ยังไง สีหน้าผมคงออก
ทั้ง..รู้สึกดี และไม่ชอบใจ
.. เป็นห่วงก็ด้วย
พอจับมือเขาให้หยุดก่อกวนความรู้สึก แมวน้อยสบตามอง แทนที่จะหยุด กลับลดตัวเองลงไปในระดับต่ำอย่างอันตราย กว่าผมจะรู้ตัวหรือคิดทันว่าเขาจะทำอะไรนั้น
ก็ไม่ทันแล้วครับ..
ชิบ!!
.. อีกนิดผมคงตายอยู่ตรงนี้
อ่า.. ซี้ด
ริมฝีปากร้อนจัดตามอุณหภูมิร่างกายของคนไข้ขึ้นสูง ไม่รู้เพราะพิษไข้รึเปล่าที่ทำให้เขามึนเบลอจนตอนนี้ผมได้แต่ขยับตัวพิงหัวเตียง ยอมแพ้
แพ้ทั้งเขาและความปรารถนาของตัวเอง
โคตรรู้สึกดีเลยครับ .. ไม่ใช่เพราะ..เซ็กส์
แต่เพราะ .. ได้เห็นคนที่หลงใหลกำลังทำอะไรแบบนั้นให้ผม
ผมมองแมวน้อยดื้อดึง
เพ้อสติหลุดไม่ต่างกัน หลงใหลเรือนกายขาว ใบหน้าขึ้นสีเรื่อ เรียวปากอิ่มที่กดชักเข้าออกปรนเปรอให้
"ฮึม อา คริสครับ .. พอได้แล้ว"
ถึงจะพูดแบบนั้น ผมว่าตัวเองก็ย้อนแย้งไม่ต่างจากเขา เมื่อรู้สึกได้ว่ามือของตัวเองกลับกดลงบนศีรษะอีกฝ่าย กดให้เข้าลึก ขยับแรงๆอย่างเผลอใจ
"อือ..อ.."
เสียงหวานๆครางเครือ
ยิ่งเห็นใบหน้าน่ารัก ท่าทางแสนอีโรติกนั่นที่ขยับไปมา ข้างในกายผมก็ปั่นป่วนแทบจะทนไม่ไหวเหมือนภูเขาไฟรอวันระเบิด อีกไม่นาน..
ไม่ต้องทำอะไรแบบนี้ ไม่ต้องพิสูจน์อะไร ผมก็ไปไหนไม่รอดแล้ว
"ฮึมม คริส พอ.. "
ผมพยายามจะดันเขาออกไป ตอนที่รู้ว่าน่าจะทนต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว
อ่าห์ แต่แมวน้อย . . . ไม่ทำตามเองนะครับ จะโทษผมก็คงไม่ได้
!!
"อ..อา"
“อือ แค่กๆ"
น้ำรักเปรอะเปื้อนเรียวปากบาง เขาถอนปากออก น้ำอุ่นๆไหลเลอะมุมปากคนที่ทำหน้ามุ่ยไม่พอใจ
ผมคิดว่าคงจะโดนด่าแน่ แต่ไม่รู้เพราะพิษไข้รึเปล่า อีกฝ่ายกลับขมวดคิ้วดุๆ เพียงแค่มองผม แต่ท่าทางที่ยกมือขึ้นเช็ดปากทั้งที่มือก็เปรอะเปื้อนไปหมด
ดูยังไงก็เหมือนแมวน้อยยกมือละเลียดเลียน้ำนมอุ่นๆ
เฮ้อ ...
ช่วยผมออกไปจากตรงนี้ที ...
ภาพที่เห็นนั้นทำเอาคลื่นอารมณ์ที่พึ่งสงบไป เหมือนจะเริ่มโจมตีอีกระลอก
ผมพยายามตั้งสติ ดึงใส่กางเกงลวกๆ จะลุกหนีลงจากเตียง กลัวจะทำร้ายคนไม่สบายไปมากกว่านี้
แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอม
เขาดึงชายเสื้อผมเหมือนก่อนหน้า .. ทำแบบนี้ใครจะกล้าเดินต่อ
หัวใจไม่รักดีอ่อนยวบยาบ ได้แต่สะกดอารมณ์ จำใจหันไปมองภาพบาดใจ
"ไหนคุณว่าไม่เหมือนคนอื่นไง .. พอเสร็จแล้วก็ไป"
แมวน้อยหัวเราะ พูดเรียบเรื่อย
ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าเขาเพ้อเพราะป่วย เสียงเยาะเย้ยตอนนี้เขาพูดจริงหรือแกล้งแซวผมกันแน่
ไม่คิดเลยว่าจะต้องรู้สึกพ่ายแพ้แบบนี้
กับคนคนนี้ .. สุดท้ายผมต้องกลับมานั่งบนเตียงที่เก่า พร่ำอธิบายทั้งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาพูดเล่น พูดจริง หรือแค่แกล้งผม
รู้แต่ไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด เท่านั้น
"ผมไม่อยากทำ คริสไม่สบายอยู่นะ .. ถ้าอยู่ตรงนี้ ผมก็ไม่แน่ใจจะอดทนได้แค่ไหน"
เขาไม่ตอบ กลับโอบแขนรอบคอ ดึงรั้งใบหน้าผมเข้าใกล้..
ผมรับมือกับโหมดนี้ของเขาไม่ได้เลย
ท่าจะแย่แล้ว
อย่ายั่ว
"..ผมสบายดี คุณสิงโต บอกว่าแค่มึนหัวไง"
มองเขา ดูยังไงก็ห่างไกลคำว่าสบายดี ยิ่งเขาเลื่อนมือจากที่โอบรอบคอผม ย้ายไปปลดกระดุมเสื้อตัวเอง
สบายดีอะไรเป็นแบบนี้ล่ะครับ! ... ช่วยเรียกรถพยาบาลที ..
มาเก็บศพผมไปก่อนเลย
"ผมร้อน .. คุณไปเปิดแอร์แรงๆหน่อยได้ไหม"
น้ำเสียงหงุดหงิดเริ่มงอแงเหวี่ยงใส่ผม ..
ได้แต่ส่ายศีรษะ พอจะลุกขึ้นไปทำตามเขาว่า ก็โดนดึงไว้อีก
"แต่ตัวคุณก็เย็นนะ .. ผมร้อน อือ .."
"คริส.."
พอกันทีครับ .. ผมขอโทษนะ
.
.
.
"อะ..อ๊า... อึก คุณสิงโต อือ"
เวรเอ๊ย อย่าเพ้อเรียกชื่อผม อย่าป่วยแบบนี้อีกนะ สาบานว่าจะไม่มาหาเขาเลย
อืม.. ไม่จริงหรอก
ถึงเวลาผมคงทำไม่ได้ ก็ต้องมาคอยเฝ้าอยู่ดี
ชักจะรู้สึกป่วยแทนขึ้นมาจริงๆแล้ว
"คริส เลิกเรียกเถอะ ผมขอ"
"คุณชอบ .. ไหม"
"อืม.. อะไร ชอบอะไรครับ"
"มีเซ็กส์ .. กับผม อ.."
..ใครไม่ชอบก็บ้าแล้ว .. นี่พูดจริงๆเลย กับคริส
"ชอบสิ ชอบมาก ..
แต่ผมชอบคริสมากกว่า"
"ชอบทุกอย่าง ไม่ใช่แค่ อืม... เรื่องเซ็กส์"
ไม่ว่าจะเพราะอยากพิสูจน์ตัวผมหรือตัวเขาเอง เขาน่าจะทำสำเร็จ
เพราะผม.. ปั่นป่วนกับความรู้สึกอย่างที่สุด ถ้าเขาจะรู้
ทุกความรู้สึกมากมายกว่าที่เคยรู้สึก
ไม่ใช่แค่ความปรารถนาอยาก
.. อยากเป็นเจ้าของ อยากครอบครอง
อยากมีแต่เขา ให้เขามีแต่ผม
อยากทะนุถนอม อยากทำร้าย
... ผมจะทนความรู้สึกมากมายพวกนี้ได้ยังไงกัน
"อืออ ร้อน ผมยังร้อนอยู่เลย คุณสิงโต"
"แบ่งมา เดี๋ยวก็ดีขึ้น แล้วก็นอนพักซักทีนะครับ"
แฮ่ก แฮ่ก
เสียงหอบหนักประสาน ไอร้อนผ่าวจากกายทั้งสองแนบชิด
"เพราะคุณคนเดียว เรื่องมันถึงได้ผิดพลาดไปหมดแบบนี้"
อืม
รสจูบแสนหวาน ราคะ ตัณหา ความปรารถนา
ประโยคไร้ซึ่งคำแว่วหวาน
คนไม่ศรัทธาในคำหนึ่งคำนั้น คงไม่ซึ้งเท่าไหร่ที่จะเอ่ยมันออกมา
คนสองคนที่ไม่เคยเข้าใจมันอย่างจริงจัง
"ขอให้ผมเป็นคนเดียว ที่ได้ชดใช้เรื่องราวเหล่านั้นแล้วกัน"
แค่ผมคนเดียว ..
จะรับผิดชอบเรื่องวุ่นวายนี้ทุกอย่างเลย
สัญญา
------
อ่านต่อที่ Dek-D
Thursday, October 17, 2019
Sofa(r) so good CUT
"ไม่ต้องเปิดหรอก อยากรู้เหมือนกันเวลาไม่มีแสงสว่าง โซฟาที่นี่ .. จะยังสวยมากๆอยู่ไหม”
ปราชญาถือวิสาสะจับโบว์หลุดรุ่ยของคนตรงหน้า ผูกเข้าหากัน
"และโบว์นายหลุดแล้ว เซลล์ประสาอะไร แต่งตัวไม่เรียบร้อยเลย"
ร่างสูงโปร่งเข้ามารุ่มร่ามใกล้ๆ แววตาเรียบนิ่งจดจ้องเสื้อผ้า วุ่นวายกับชุดฟอร์มของเขา ดวงตาคมกริบที่เหลือบมองเชิงตำหนิในระยะใกล้ทำให้เซลล์ตัวน้อยหลุดอึกอักทั้งที่ตั้งใจจะทักท้วง..
ทำตัวเป็นเจ้านายเขาไปได้ ทั้งที่เป็นแค่ลูกค้ามาซื้อของที่ร้านแท้ๆ
"อ..คุณปราชญา"
"ถ้าไม่คิดจะใส่ให้มันดี .. ก็ถอดออกซะดีกว่า"
ไม่แค่พูดเท่านั้น มือแกร่งจับปลายเสื้อล้วงมือเข้าไปในกางเกงเขาหน้าตาเฉย คริสเผลอสะดุ้งยามที่มืออีกฝ่ายสัมผัสเข้าไปโดนผิวกายใต้ร่มผ้า
"คุณ.."
มือบางยกขึ้นมาจับข้อมือลูกค้าเจ้าระเบียบปรามไว้ก่อนที่จะล้วงลึกลงไปมากกว่านี้
"ผมใส่เองได้ครับ ขอบคุณ"
รอยยิ้มหวานยังประดับบนดวงหน้าขาวใส เหมือนเป็นเรื่องปกติที่เขาใช้กริยาแบบนี้บริการกับลูกค้าทุกๆคน
ปราชญามองรอยยิ้มนั้น รู้สึกเหมือนตัวเองไม่ต่างจากคนอื่นๆที่ท้ายที่สุดก็คงต้องเลือกซื้อโซฟาของร้านนี้ แค่เพียงเพราะ เซลล์ขายเก่งอย่างไม่น่าเชื่อ
สินค้าที่ดูธรรมดา .. ดูมีราคาขึ้นมาทันที
ราคาของความอยากได้ อยากสัมผัส .. อยากทดลองว่าของตรงหน้าจะดีจริงอย่างที่ตาเห็นรึเปล่า
ยอมละมือออกไป ยืนดูอีกฝ่ายยัดเสื้อเข้าในกางเกงให้เรียบร้อยเหมือนตอนกลางวันที่อยู่ในเวลางาน ขยับรอยยิ้มพึงพอใจหลังจากที่ยืนกดดันจนเซลล์ที่เลิกงานแล้วจำต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยจะได้ขายของให้ลูกค้าจอมเนี้ยบ
"ค่อยน่าซื้อหน่อย"
"ไม่คิดว่าจะเจอลูกค้าช่างเลือกอย่างคุณ ขออภัยที่เสียมารยาทไม่แต่งตัวให้เรียบร้อย"
คริสสบตามองอีกฝ่าย เอ่ยกึ่งจะหยอกเย้า อีกนัยหนึ่งเหมือนจะหลอกด่าว่าเรื่องมากกลายๆ
แต่ปราชญาก็ไม่ได้ถือสา
ขายของเก่ง ปากเก่ง .. อยากรู้เหมือนกันเซลล์ที่นี่จะเก่งทุกเรื่องไหม
เขาเดินเลยเซลล์ที่ยืนอยู่ไปยังโซฟาด้านหลัง ไล้มือลูบไปตามเบาะหนังสีดำสนิท เหลือบมองยามที่อีกฝ่ายหมุนตัวกลับมา
คาดหวังให้ซื้อให้ได้ใช่ไหม .. ซื้อน่ะซื้อแน่ ..
ปราชญาหัวเราะหึในใจ ตอนที่เซลล์เดินเข้ามาใกล้ ลุ้นรอคำตอบ
การจะเสียเงินกับของที่ไม่ได้อยากได้มากเท่าไหร่ แต่บริการที่นี่ดูท่าจะดีจนน่าใช้ไปหมด
เคาะนิ้วกับโซฟาที่เดินพิจารณาอยู่ราวกับกำลังครุ่นคิด
"ผมเริ่มสนใจแล้วล่ะ เซลล์ ขอทดลองสินค้าได้ไหม"
"ได้สิครับ"
คริสผายมือเชื้อเชิญให้ลูกค้าลองนั่งบนโซฟาได้ตามใจ หรือจะสำรวจจับตรงไหนก็ได้ เก้าอี้ตัวโชว์มีไว้เพื่อให้ลองตามความต้องการของลูกค้าอยู่แล้ว
จุดที่ยืนอยู่สลัวด้วยแสงสีส้มเหมือนประดับโชว์สินค้า ไฟขาวถูกหรี่ลงจนเกือบหมดแล้ว โซฟาหนังสีดำต้องแสงไฟ พื้นผิวมันสวยสะท้อนลวดลายหนัง
ปราชญาเดินมาหย่อนกายนั่งลงกับโซฟาตัวนุ่ม พื้นผิวหนังเรียบ ไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไป ถือว่าใช้ได้ทีเดียว
"มานี่สิ"
มือเรียวตบเบาๆลงเบาะที่ว่างข้างๆ มองคนขายที่ทำสีหน้าฉงนสงสัยเล็กน้อยจนต้องเอ่ยต่อ
"ผมจะทดสอบหน่อย ว่าสองคนก็ยังใช้งานได้ดีใช่ไหม"
รอยยิ้มหวานยั่วยวนยังให้บริการอย่างดี .. ไม่แปลกใจลูกค้าคนไหนๆก็คงชอบ หลงคารมเผลอเออออตาม ยอมเปย์ได้ไม่ยาก
ปราชญามองคนที่พยักหน้ารับ ทำตามใจ ก้าวเข้ามาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ กลิ่นหอมๆของน้ำหอมอบอวลให้ความรู้สึกคล้ายกลิ่นของดอกไม้ลึกลับมากเสน่ห์ที่อยากจะจับเด็ดกลีบเก็บมาไว้ใต้หมอนให้หมด
ขาเรียวยกขึ้นนั่งไขว้ห้างอย่างมีมาด ขยับกายเล็กน้อยเหมือนจัดท่าทางการนั่ง ไหล่บางสัมผัสเบียดกัน ดูก็รู้ว่าจงใจอ่อย
รู้สึกได้ถึงมือข้างหนึ่งของพนักงานขายที่วางลงบนหน้าขา ลูบไล้ไปมาอย่างนิสัยไม่ดี
"ผมจะมั่นใจได้ยังไง ว่าคุณปราชญาจะซื้อ ไม่ใช่แค่เช็คของเฉยๆแล้วก็ไปอีก ผมเพลียจะแย่แล้ว"
เอ่ยถ้อยคำออดอ้อนให้เห็นใจ อีกนัยหนึ่งก็ขอความชัดเจนและล่อหลอกให้ตกลงปลงใจซื้อสินค้ากลายๆ
".. ผมไม่อยากเสียเวลาไปกับลูกค้าที่ไม่ได้คิดจะสนใจสินค้าเราจริงจัง บางคนเข้ามาเล่นๆแล้วก็ไป .. คุณปราชญาล่ะครับ สนใจจริงๆรึเปล่า"
ใบหน้าน่ารักที่ยื่นมาใกล้จนเกือบจะสัมผัสแก้ม ปราชญาพยายามไม่หันไปมองเพราะกลัวจะอดใจไม่ไหวจนต้องบดขยี้ริมฝีปากที่ส่งเสียงเจื้อยแจ้วนั่น
"ผมกำลังตัดสินใจ ขอเวลาคิด"
แสร้งยื้อเวลาแม้ในใจจะอยากเช็คของแค่ไหน .. อยากเห็นคนที่ดูมั่นอกมั่นใจในตัวเองนั้นใช้ความพยายามอีกนิด ..
อยากรู้ว่าลิมิตของการบริการ มันแค่ไหนกัน
"คิดนานจังครับ"
เซลล์ตัวแสบเอ่ยเสียงเบาหยอกเย้า ขยับตัวลงไปอีกหน่อย ทำท่าทางนอนเอนๆพิงเบาะเหมือนอยากจะพักผ่อนเต็มที ศีรษะทุยเอนลงมาสัมผัสไหล่คนกำลังใช้ความคิดเล็กน้อยให้ใจเต้นแรง
"ไม่เป็นไร ผมรอได้ทั้งคืน"
.
.
ลิมิตคนบริการ รอได้นานเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ดูท่าแล้วลิมิตของคนซื้ออาจจะน้อยกว่ามาก
ก่อนที่ศีรษะที่อิงแอบซบบนไหล่เบาๆเหมือนกลั่นแกล้งจะขยับออก ปราชญากลับกดมือลูบไล้เส้นผมนุ่ม สอดนิ้วสางเส้นผมบางเล่น พอโดนแตะตัวเซลล์จอมยั่วก็จะลุกหนี เขารีบเอ่ยแทรกก่อน
โอเค โอเค พอกันที
"งั้นผมตกลงซื้อ.. ผมจะซื้อสินค้าตัวอย่างนี่เลยแล้วกัน
แต่มีข้อแม้ไม่กี่ข้อที่ผมอยากได้จากบริการหลังการขาย"
พอได้ยินแบบนั้น ดวงตาประกายสวยวาววับทันที .. ให้ทำอะไรก็คงทำตามแล้ว ในเมื่อปราชญาเองก็ให้ในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการแล้วนี่นา แฟร์ๆ
"ว่ามาสิครับ"
เป็นไปตามคาด หึ
"หนึ่ง ถ้าผมมาที่ร้าน ผมต้องการติดต่อเซลล์คนเดียวที่ดูแล ไม่ว่าจะมีปัญหาเกิดเรื่องกับสินค้าหรือผมไม่พอใจ จะติจะชมยังไง นายต้องเป็นคนจัดการ ผมไม่รับบริการจากคนอื่น"
"เรื่องแค่นี้ ไม่มีปัญหาครับ รับรองว่าผมจะบริการคุณคนเดียว"
"ดี .. สอง ผมต้องการบริการจัดส่งสินค้า หวังว่าสินค้าราคาแพงแบบนี้ ผมจะได้เซลล์คนที่เสนอขายเป็นคนเอาสินค้าไปส่งด้วยตัวเอง..ถึงที่"
คริสเงียบไปเล็กน้อย .. อันที่จริงร้านใหญ่โตแบบนี้ มีบริการจัดส่งแน่นอนอยู่แล้ว แต่ก็เป็นฝ่ายส่งสินค้าน่ะนะ แต่ถ้าอีกฝ่ายอยากให้เขาเป็นคนเอาไปส่ง.. ถึงจะลำบากแต่คิดแล้วก็คุ้มค่ากับค่าคอมฯที่จะได้มา
มีเหรอจะปฏิเสธ
"ผมจะไปส่งให้ครับ คุณปราชญา"
ปราชญาหัวเราะหึ พึงพอใจ ก่อนเอ่ยต่อ
"สาม ข้อสุดท้าย ผมยังอยากได้สีสว่างตัดกับโซฟาสีดำ .. ร้านคุณจะหาให้ผมได้ไหม"
...คำเรียกร้องเดิมจากปากลูกค้าเจ้าระเบียบ .. ทั้งที่ก็บอกไปแล้วว่ารุ่นนี้มีแต่สีดำ ดูเหมือนลูกค้าของเขายังคงยืนยันความต้องการนั้นให้ได้ แม้จะไม่แน่ใจว่าสีสว่างที่ว่านี่ต้องการแบบไหน แค่การไปจัดแสงจัดที่ทางการวางให้ .. การไปหาผ้าหรือของมาประดับ หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาปฏิเสธคำร้องขอ ในเมื่ออีกฝ่ายกำลังจะตกลงซื้อ
จะแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น ไม่มีอะไรที่แก้ไขไม่ได้
แล้วไว้เขาจะหาวิธีแก้ไขเรื่องนี้ให้ทีหลังแล้วกัน
"แล้วไว้ผมจะจัดการให้นะครับ"
.
.
หลังจากตกลงกันได้เรียบร้อย คนซื้อขายก็จัดการทำเรื่องจ่ายเงินเสร็จสรรพ เวลาล่วงเลยไปจนข้างนอกฟ้ามืดมีเพียงแสงไฟจากไฟถนนรำไร กับภายในร้านที่ยังคงไม่ได้ถูกเปิดไฟแต่อย่างใด
"จะให้ผมเอาโซฟาไปส่งตอนนี้เลยรึเปล่า"
"พรุ่งนี้ก็ได้ ตอนนี้เลยเวลางานนายแล้ว"
คริสยิ้มให้ ก้มหัวให้น้อยๆ การบริการที่ใช้ลูกเล่นนิดหน่อยก็ยังได้ผลเสมอไม่ว่าจะกับลูกค้าคนไหน .. ให้นามบัตรติดต่อ เดินไปส่ง หรือดีไม่ดีอาจจะโดนขอเบอร์ ขอไลน์ตามประสา หรือลูกค้าชั้นดีหน่อยเขาก็อาจจะจูบเบาๆปัดๆผ่านให้ซักที
ลูกค้าหล่อๆแบบคุณปราชญานี่ก็น่าให้รางวัลก่อนจะลากันแยกย้ายกลับบ้าน
ถือว่าเป็นการบริหารเสน่ห์และใช้เล่ห์เหลี่ยมในแบบที่ถนัดก็แล้วกัน
คริสตั้งท่าจะเดินไปทางประตู หวังจะเดินไปส่งลูกค้าให้ถึงรถ แต่ยังไม่ทันเดินไปไหนไกล มือบางก็ถูกดึงรั้งเอาไว้ก่อน
"เดี๋ยวสิเซลล์ จะรีบไปไหน"
พลั่ก
จับเฉยๆไม่พอ รู้ตัวอีกทีร่างบางก็ถูกเหวี่ยงลงบนโซฟาตัวนุ่มสีดำสนิทที่อีกฝ่ายพึ่งจะตกลงซื้อไปสดๆร้อนๆ รอแค่เอาไปส่งพรุ่งนี้เท่านั้น
แรงนิ่มๆและระบบสปริงตัวที่รองรับอย่างดีทำให้ไม่รู้สึกเจ็บมากนัก ... แต่ประโยคต่อมากลับทำให้ใบหน้าหวานต้องขมวดคิ้วงุนงง
"ไหนๆผมก็ซื้อแล้ว ขอลองใช้สินค้าเลยได้ไหมว่าตรงตามคำโฆษณาคุณภาพรึเปล่า"
ยังไม่ทันจะตอบ แรงกดข้อมือลงกับโซฟา มาพร้อมร่างสูงที่ขึ้นคร่อม
ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาปรากฏกับสายตา รอยยิ้มน่ามองกับดวงตาประกายกวาดมองทั่วตัวคนใต้ร่าง
"เฮ้อ ... เสื้อนายยับแล้ว.. บอกให้ถอดตั้งแต่เมื่อกี๊ก็ไม่ถอด มันรำคาญตา"
"อ๊ะ คุณปราชญา เดี๋ยว.. จะทำอะไร"
มือเรียวข้างหนึ่งเปลี่ยนมาไล่ปลดกระดุมเสื้อสีแดงยับยู่ยี่ไร้ระเบียบที่น่าหงุดหงิด ดึงออกให้พ้นตัว กวาดตามองร่างด้านใต้ที่ดิ้นๆจะออกจากแรงกดเขา พอจะปลดกางเกงผ้าที่ยับเยินพอกัน มือบางข้างที่ว่างอยู่จับมือห้ามปราม
"คุณปราชญา.."
"ผมจะเช็คสินค้า"
"แต่..."
.. แต่การขายสำหรับเซลล์อย่างเขา มันสำคัญเสียยิ่งกว่าสำคัญ
เขาจะชวดการขายครั้งนี้ไม่ได้
แค่นิดหน่อยคงไม่มีอะไรเสียหายหรอกมั้ง ใช่ว่าเราจะต้องเจอกัน
จบแล้วจบเรื่อง ต่างคนต่างไป คงไม่มีใครสนใจนักหรอก
"คิดอะไรอยู่"
อีกฝ่ายเห็นคนใต้ร่างกึ่งจะขัดขืน กึ่งชะงักไปก็ขยับยิ้ม ก้มลงซุกไซ้ซอกขอขาวที่ล่อสายตา สีขาวที่ตัดกับสีแดงของเสื้อผ้าที่เห็นใส่ก่อนหน้านี้ว่าสวยแค่ไหนแล้ว ตอนนี้ที่ตัดกับสีดำของโซฟายิ่งสวยกว่ามากนัก
"ไม่ต้องกลัวน่า .. ผมเช็คไม่นานหรอก อืมม เบาะนุ่มดี"
"อ๊ะ .. คุณ ... ประตูมันไม่ได้ล็อค"
เสียงหวานเอ่ยละล่ำละลักทั้งความรู้สึกวาบหวามที่ก่อตัวขึ้นยามที่เรียวปากกดเม้มไปตามซอกคอ ถึงจะขี้ยั่วแค่ไหนก็ใช่ว่าเขาจะคุ้นชินกับเรื่องอะไรแบบนี้
"นายเป็นคนสุดท้ายที่จะต้องออกจากร้านไม่ใช่เหรอ จะมีใครเข้ามาอีกล่ะ ถ้ามีก็คงโจร ดักปล้นร้าน รอจังหวะเหมาะสม"
คริสเงียบไปเล็กน้อย .. ขัดใจคงไม่ดีแน่ .. ที่เอ่ยยั่วหยอกเย้าก็ไม่คิดด้วยว่าจะเลยเถิดมาถึงขนาดนี้เพราะลูกค้าปกติก็ไม่มีใคร.. กล้าทำอะไรเขาในที่สาธารณะแบบนี้นักหรอก
เสียก็แต่ตอนนี้ ... มันไม่มีใคร
ที่บอกว่าจะมีก็แต่โจร .. คุณปราชญาก็ทำตัวไม่ต่างจากโจรเลยตอนนี้
"ทำไม กลัวเหรอ ผมไม่ใช่โจรหรอกน่า ถ้าใช่คงไม่เสียเวลามาจ่ายตังซื้อของแบบนี้"
ปราชญาก้มลงกระซิบข้างหูคงที่นอนบิดกายหลบใบหน้าหนีสัมผัสอยู่ใต้ร่าง
เซลล์ที่นี่ ยั่วยวนดีชะมัด
"ผมแค่นักสะสม ชอบของสวยๆงามๆ ของอะไรที่สนใจแล้ว ก็จะไม่เบื่อง่ายๆ"
ปลดกางเกงที่ขวางหูขวางตาได้สำเร็จ ส่งสายตามองไปทั่วร่างกายขาวนวล
สวยงาม ไร้ที่ติ
ลิ้นอุ่นร้อนค่อยๆไล้เลียไปตามร่างกายขาว สัมผัสแผ่นอกสวยล่อสายตา โลมเลียลงต่ำจนถึงหน้าท้องแบนราบ เสียงหายใจหอบทั้งใบหน้าขึ้นสีเรื่อดูเย้ายวนอย่างไม่ได้ตั้งใจ
"คุณ อ๊ะ... อือ"
ดวงตากลมเหลือบมองประตูหน้าร้านที่มองจากตรงนี้ก็เห็นไกลๆอย่างกังวล ถึงภายในจะมืดก็จริง แต่จุดที่มีแสงสว่างเพียงเล็กน้อยถ้ามองจากข้างนอกมันยิ่งจะเป็นจุดสังเกต
".. ร้านมีวงจรปิดรึเปล่า"
"ต..ตรงนี้ไม่มีหรอก อือ"
ยิ่งเคลื่อนใบหน้าลงต่ำเหมือนรังแก ฟังเสียงหอบตอบถ้อยคำออกมา ปราชญากระตุกยิ้ม ถอนใบหน้าออกเปลี่ยนเป็นลากมือลงสัมผัสแก่นกายคนด้านใต้ที่เริ่มชูชันตามแรงปรารถนา
"ทำไมล่ะ ตื่นเต้นเหรอ ... กลัวจะมีใครรู้ว่าเซลล์ที่นี่ใช้วิธีไม่ซื่อขายของ ต้องแย่แน่ๆใช่ไหม เอาตัวเข้าแลกแบบนี้"
"ผมเปล่า..คุณเองที่ ... อ๊ะ คุณปราชญา"
มือที่ลูบไปตามส่วนอ่อนไหว จับรูดรั้งแรงขึ้นยิ่งสร้างความเสียวซ่านจนต้องกลั้นเสียงครางหายใจหอบหนัก
"ถึงว่า คนชอบร้านนี้กันน่าดู .. บริการดีจริงๆ"
คริสไม่ตอบ.. ในใจก็อยากจะบอกออกไปว่า เข้าใจผิดแล้วโว้ย อันที่จริงเขาไม่ได้เอาตัวเข้าแลกถึงขั้นนี้หรอก .. ที่อ่อยที่ยั่วไปก็แค่นั้นนั่นแหละ
จะบอกว่าวิธีไม่ซื่อก็ไม่ถูก พวกลูกค้ามันก็มาติดใจหน้ามืดซื้อของเอง
และแม้จะตอนนี้ .. เขาก็ไม่กล้าผลักลูกค้าที่กำลังเสพสุขกับร่างกายเขา
แค่เพราะ... หน้าที่การงานอันหอมหวาน ยังอยากได้ทุกอย่าง
ใช้วิธีสกปรกบ้างก็คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง
อีกอย่าง คุณปราชญาก็... อ่า
รู้สึกดี
"อ๊ะ อา..ฮ๊า...."
เสียงครางแว่วหวานในร้านที่เงียบงัน มือที่รูดรั้งยังไม่ผ่อนแรงจนความต้องการจะแตะถึงจุดสูงสุด .. ส่วนอ่อนไหวเริ่มปริ่มน้ำรักที่จวนเจียนจะระเบิดความปรารถนาเต็มที ถ้าไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายหยุดมือซะก่อน
"ไม่ยั่วแบบเมื่อกลางวันต่อแล้วเหรอ .. ทำสีหน้าท้าทายอีกสิ ผมชอบ"
"อึก .. คุณปราชญา มัน..."
คนบนกายขยับตัวผละออกนิดหน่อยราวกับจะกลั่นแกล้ง เหลือบมองมือตัวเองที่ขยับปรนเปรออีกฝ่ายเมื่อครู่ วางมือลงบนเบาะหนังสีดำสนิท เอ่ยถาม
"ถ้าเปิ้อนคราบจะซักออกง่ายรึเปล่า สินค้าร้านนายน่ะ ล้างได้สะอาดไหม"
"..."
ใบหน้าขาวเนียน ขึ้นสี เหงื่อชุ่มกายแม้ในร้านยังอบอวลไปด้วยแอร์เย็นฉ่ำ สายตาฉ่ำหวานส่งสัญญาณเหมือนจะขอให้ช่วยทำให้เขาสบายตัวทีได้ไหม
หึ ยั่วอีกแล้ว เซลล์ที่นี่จะยั่วไปถึงไหน
"ช่วยไขข้อข้องใจให้ผมก่อน ถ้าทำได้สะอาดจริง เดี๋ยวผมจะให้รางวัล"
คริสเบิกตากว้างเมื่อรู้แล้วว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน ... มองมืออีกฝ่ายที่ปลดชุดกางเกงเรียบๆที่เริ่มยับของตัวเองออก ขยับจ่อความเป็นชายที่แข็งขืนชิดใกล้
"นี่คุณ.."
"เลียสิ.. ช่วยบริการให้สะอาดหน่อย"
.
.
ขยับกระแทกแก่นกายเข้าหาเรียวปากนุ่มอุ่นร้อนที่ครอบครองส่วนอ่อนไหว ฟังเสียงอืออาในลำคอฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ก็ถือว่าทำได้ดีเยี่ยมทีเดียว
"อาา"
ซี้ดปาก ครางต่ำกับการบริการหลังการขายที่สุดยอด สบมองดวงตาคู่สวยคลอน้ำตาด้วยความปรารถนาปนอึดอัด แม้จะยังเร่งจังหวะปรนเปรอให้ไม่ขาด
ร้านนี้นี่เด็ดจริงๆอย่างว่า
"อือ อืออ อ.."
ไม่นานความต้องการก็ถูกปลดปล่อยจนล้นเรียวปากบางบางส่วน เขาชักแก่นกายออกทำให้บางส่วนเปรอะเปื้อนตามตัวของคนใต้ร่างที่นอนหอบแฮ่กหมดแรง
เห็นทีคงต้องให้รางวัลเซลล์คนเก่ง
เล้าโลมส่งมือช่วยสร้างความเสียวซ่านให้คนที่ยังไม่ปลดปล่อย ช่วยปรนเปรอในขณะที่อีกมือหนึ่งก็ไม่อยู่ว่าง ดันเรียวนิ้วค่อยๆสอดใส่ช่องทาง ก่อนที่ความต้องการตัวเองจะเริ่มแข็งขืนขึ้นอีกระรอก..
ค่อยๆกดกายเข้าหาช่องทางอ่อนนุ่มคับแน่นที่ตอดรัดไม่หยุด
"อ๊าาา เจ็บ อึก"
".. .. แน่นจังแฮะ นี่นาย.."
"อ๊ะ อา อ... เจ็บ คุณปราชญา ผมเจ็บ"
ได้ยินเสียงหวานครวญครางแบบนั้น จำต้องปล่อยตัวเองแช่ค้างให้อีกฝ่ายค่อยๆปรับสภาพทั้งยังอดแปลกใจไม่ได้
"คนอื่นเขาปล่อยนายไปได้ยังไง .. น่าแปลกใจชะมัด ...หรืออยู่ที่ร้านนายปลอดภัย น่าเสียดายนะที่ผมมาซื้อของผิดเวลาไปหน่อย"
ค่อยๆขยับกายชักเข้าออก เชื่องช้า ค่อยๆเร่งความเร็วขึ้น ฟังเสียงหวานๆครวญครางทั้งแรงกระแทก โซฟาตัวเก่งโยกไหวไปตามแรง
แต่ดูเหมือนความแข็งแรงและน้ำหนักของโซฟาไม่ทำให้เกิดเสียงครูดกับพื้นจริงอย่างว่า
ถ้ามีเสียงก็มีแต่เสียงคนบนโซฟานั่นแหละที่ครวญครางแทบหมดแรง
"อ๊ะ อา อะ... อะ อ๊ะ "
"ไม่ยิ้มยั่วท้าทายกันแบบเมื่อกลางวันแล้วล่ะ หืม เซลล์คนเก่ง"
"ฮ๊า อ๊า อ๊า ไม่.. แรงไปคุณ อ๊า ฮึก.."
แรงกระแทกไม่เบานักทำเอาแทบจมลงไปในโซฟาตัวนุ่ม พื้นที่กว้างขวางทำเอาหนีไปได้ยากยามโดนอีกฝ่ายโถมตัวคร่อมกักกัน
"อาา .. รับแรงกระแทกได้ดีจริงๆด้วยแฮะ"
พูดพลางจับมือคนข้างใต้ให้ยกขึ้นโอบรอบคอ มองสบดวงตากลมคู่สวยฉ่ำวาวน้ำ ทั้งราคะปรารถนาที่เอ่อล้นจนจะทนไม่ไหว
"โซฟานี่ดีจริงๆ ทั้งนุ่ม ทั้งอุ่น .. สัมผัสดี ... เสียงก็ดีด้วย"
"อือ คุณปราชญา อะ.. อ๊าา"
เซลล์ที่นี่ ช่างน่าประทับใจจริงๆ .. ต้องมาใช้บริการบ่อยๆซะแล้ว
---ต่อที่ทวิตเตอร์นะแจ๊ะ---
Friday, October 11, 2019
MOTEL | CUT.26 - Till the dawn
อาจจะเพราะบรรยากาศดีๆ
อากาศเย็นๆเคล้าแสงดาวในค่ำคืนนี้
หรืออาจจะเพราะ ..
คำบอกชอบของผม ที่ทำให้เขาลืมตัวไป
อาจจะเพราะเขาไม่ได้ใส่ใจดังคำที่บอกว่า .. มันก็แค่เซ็กส์ ..
เพราะแบบนั้นใช่ไหม คริสถึงเปิดช่องว่างให้ผมมากมายขนาดนี้
ช่องว่างให้ประชิดตัว
ให้เราได้สัมผัสกัน
มากกว่าราคะปรารถนา ที่ปะปนไปกับความรู้สึกลุ่มหลงมากกว่าเคย
“อือ นี่คุณ...”
“ครับ”
ผมขานรับ ซุกหน้าอยู่บริเวณซอกคอขาวเปียกชื้นน้ำ เปียกไปหมด ยิ่งสะท้อนแสงไฟรอบๆ ดวงหน้าหวานของเขาทำให้ผมเหมือนต้องมนตร์สะกด
กี่ครั้งที่มอง ก็เหมือนต้องมนตร์
ผิดที่เขา ที่ทำให้ผมไปไหนไม่รอด แม้จะพยายามตัดใจไปแล้วครั้งหนึ่ง ก็ยังวนกลับมาที่เดิม
มันเริ่มไม่ปกติมากขึ้นทุกที .. ผมรู้ ผมรู้มาตลอดถึงความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวเองแต่ก็ไม่เคยแน่ใจซักครั้ง
แม้แต่ตอนนี้
รู้ก็แต่ อยากจะโอบรั้งผิวกายขาวเนียนนี้ไว้แนบกาย หยุดเวลาเอาไว้ ไม่ต้องคิดอะไร
ขอแค่ได้อยู่กับเขาในค่ำคืนนี้
.. ผมไม่อยากบังคับ ไม่อยากให้เขารู้สึกว่าผมต้องการแค่เรื่องอย่างว่า
แต่มันก็ทำได้ยาก
คนที่ชอบอยู่ตรงหน้าแบบนี้ ผมไม่ใช่สุภาพบุรุษนักหรอกครับ
ผมเป็นแค่คนธรรมดา ที่ยอมแลกเงิน แลกทุกอย่าง เพื่อให้ได้สิ่งที่ปรารถนา
ถ้าหัวใจมีราคาผมคงจ่ายหมดตัว
แต่เพราะผมไม่รู้ว่ามันราคาเท่าไหร่ .. แล้วเขาจะยอมขายให้ผมไหม
นั่นแหละปัญหา
และเหนือไปกว่านั้น ลึกๆผมก็ไม่รู้ตัวเลยว่าทำไมอยู่ๆผมถึงต้องการ 'หัวใจ' ของเขา
“ถ้าผมไม่มารังควานทำให้หงุดหงิดใจแบบนี้ คริสจะคิดถึงผมบ้างไหม”
ผมออกแรงดึงเขาเข้ามากอด ผิวน้ำสงบนิ่งสั่นไหวยามร่างกายเราเข้ามาใกล้ชิดกัน แมวน้อยอิงซบอยู่บนอกผม จะขืนตัวออก แต่ผมยังกอดเขาไว้
“ไม่”
“จริงเหรอครับ”
ผมยิ้ม ซบศีรษะตัวเองลงบนเส้นผมนุ่ม เราหันหน้าเข้าหากัน น้ำลึกเพียงระดับอกยามเรานั่งบนช่วงพื้นต่างระดับที่สร้างไว้รอบๆมุมสระให้นั่งพักเหนื่อยแบบนี้
ไม่มีความหนาวให้รู้สึก มีแต่ความร้อนจากร่างกายผมวนเวียนไปมา
รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่มีเขาชิดใกล้
หัวใจเหมือนจะหลุดออกจากอกให้ได้
จุดจบเพลย์บอยอย่างผม ไม่น่าพ่ายแพ้ให้แมวน้อยจอมพยศที่ไม่หลงคารมกันเลยซักนิด
เสียชื่อสิงโตนักล่าชะมัด
“แต่ผมคิดถึง.. ขนาดมาหาคริสทุกวันยังคิดถึงเลย อยากเห็นหน้าตลอดเวลา อยากกอดทุกคืน..”
“...”
“ผมอาจจะไม่เหมือนคนอื่นที่คริสเคยเจอก็ได้นะ”
ไม่รู้อะไรที่ทำให้ผมพูดแบบนั้นออกไป.. อาจจะเพราะความระแวดระวังและดูไม่เปิดใจง่ายๆของเขาที่ทำให้ผมอยากวอนขอที่จะก้าวเดินเข้าไปใกล้เขาซักก้าว
ก้าวที่ใกล้กว่าที่ใครจะได้สิทธิ์นั้น
..หรือมันอาจเป็นความรู้สึกอยากเอาชนะใจเขาให้ได้ .. กับเพลย์บอยที่ไม่รู้จักคำว่าพ่ายแพ้อย่างผม
อยากทลายกำแพงเพื่อไขว่คว้าให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ
ดวงตากลมสบมองผมเหมือนไม่เชื่อ
ไม่รอช้า ผมปิดกั้นคำพูดเขาด้วยจูบแสนหวานที่ไม่รุกรานเหมือนครั้งไหนๆที่ผ่านมา
เป็นอีกครั้งที่เขาดันตัวเองจะออกจากอ้อมกอดผม
ก่อนจะหยุดนิ่งชะงักงัน แมวน้อยสงบลง ลดแรงพยศอย่างลืมตัวเมื่อผมใช้ปลายนิ้วปัดเส้นผมเปียกน้ำที่ปรกหน้าเสยไปด้านหลัง เกลี่ยสางผมเขาเล่นเหมือนลูบหวีขน ช่วยปลอบเอาใจแมวน้อยดื้อดึง
ลูบศีรษะเขาแผ่วเบาไปมา
“คุณสิงโต..!”
“ครับ”
ผมมอง..
มองดวงตาสั่นไหวคู่สวยสะท้อนแสงไฟ ดูอ่อนลงอย่างไม่น่าเชื่อ
..ดูเหมือนเขาจะชอบนะ..
อืม
?!
ทำไมผมรู้สึกเหมือนคุ้นเคยกับใครซักคน ที่ชอบความอ่อนโยนแบบนี้ พยศดื้อดึงแบบนี้
น้อยคนแม้แต่คู่นอนที่ผมจะอ่อนโยนหรือเอ็นดู ก็แค่คู่นอน จะเย้ายวน ออดอ้อนเก่งแค่ไหนก็ไม่เคยมีซักครั้งที่ผมจะอยากอ่อนโยนด้วย
หรือเราจะเคยรู้จักกันมาก่อน
อาจจะชาติที่แล้ว ฮ่าๆ
ตลกน่า..
แต่ก็ไม่แปลกจริงไหมที่บางเหตุการณ์มันทำให้เรารู้สึกเหมือนเคยผ่านอะไรแบบนี้มาก่อน ในชีวิตเรา
หรือเขาอาจเหมือนคู่ขาของผมคนไหนที่เคยนอนด้วย ก็อาจใช่ ผมผ่านอะไรแบบนี้มาเยอะแยะ
แต่ที่ผมบอกว่าแปลก หมายถึง ..ความรู้สึกพิเศษแบบนี้
อาจจะเพราะผมชอบคนแบบนี้ นิสัยแบบนี้ มันเลย ..
อา รู้สึกแปลกๆดีแฮะ
ผมเผลอลูบไล้ สางผมเขาเล่นพลางคิดฟุ้งซ่านอย่างลืมตัวจนโดนเสียงใสๆแหวใส่
มือบางดันมือผมออก ขยับตัวออกห่างเล็กน้อย
“ทำอะไรของคุณ”
ผมหัวเราะ จับมือเขาสอดประสานเรียวนิ้วของเราเข้าด้วยกัน
“ถ้าไม่ชอบให้รุนแรง ผมจะทำตามใจคริสบ้าง .. รู้ไหมที่บังคับ เพราะคริสน่ารักน่าแกล้งเองนะครับ..แต่จริงๆแล้ว .. คริสเป็นมากกว่าแค่เรื่องเซ็กส์”
จุ๊บ
ผมจุ๊บเขาแผ่วๆ พอยื่นหน้าเข้าใกล้ แมวน้อยเผลอหลับตาลงรับสัมผัสนั้น ไม่ต่อต้าน
เขาอาจจะตามเกมส์ผมไม่ทันจนยอมให้ผมทำอะไรที่อยากทำแล้วหยุดวุ่นวายกับเขาไปเอง
อืม น่ารักจังครับ
แต่เขาก็คงรู้ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอกที่ผมจะหยุด
ยิ่งกับตอนนี้ เวลานี้ด้วยแล้ว
“คงจะดี ถ้าเรารู้สึกไปด้วยกัน ..ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว”
ไล้ลิ้นเลียปากบางที่เผยอเชิญชวนอย่างไม่ตั้งใจ ดูดดึงเบาๆกลั่นแกล้ง
ได้ยินเสียงอีกฝ่ายครางเครือในลำคอ
อืม ถ้าคริสคิดว่าแค่เซ็กส์ ก็อย่าทำแบบนี้แกล้งกันสิครับ
เพราะผมคิดมาก .. คิดมากกว่านั้นเยอะเลย จะไม่ไหวแล้วนะ
มือซุกซนของผมลดลงต่ำตามอารมณ์ปรารถนาและเสียงในหัวใจ ปลดกระดุมเสื้ออีกฝ่ายแม้จะมองไม่เห็นในระดับใต้สระน้ำนั่น มือบางวุ่นวายจะปัดมือผมออกพัลวัน
“คุณสิงโต ! หยุดเลย”
..เห็นเคลิ้มๆนึกว่าจะอยากให้ผมทำอะไรให้ซะอีก โธ่ แมวน้อย
“อะไรครับ เปียกแบบนี้เมื่อไหร่จะแห้ง เดี๋ยวไม่ได้กลับโมเต็ลกันพอดี หืม เดี๋ยวผมไปตากให้ ถอดกางเก...”
“อย่ามาหลอกผมไม่ใช่เด็กนะ คุณลูกค้า คุณน่ะมันเจ้าเล่ห์”
“ไม่ถอดแล้วจะตากยังไง อยู่ในน้ำไม่เป็นไรหรอกน่า มา ผมไม่มอง ถอดส่งมา”
“ไม่ต้อง”
“ไม่ถนัดใช่ไหม งั้นผมช่วยนะ ไม่ทำอะไรหรอก”
“บอกว่าไม่ต้อง อ๊ะ.. คุณ..!! อ..”
เขาถอยตัวเองไปติดขอบสระ กลายเป็นผมที่ยิ่งเข้าใกล้จนเหมือนจะคร่อมเขา
ตั้งใจจะช่วยปลดกางเกงออกไปตากให้จริงๆนะครับ แต่ อ่าา..
มันมองไม่เห็น คลำผิดไปหน่อย
รู้สึกดีชะมัด ..
“..ให้ผมช่วย”
ผมยิ้มกริ่มมองหน้าเขาที่ขึ้นสีแดงเรื่อจางๆกับแววตาขุ่นๆนั่น
“ม.. คุณ เอามือออกไป”
มือเขาพยายามดันมือผมที่กำลังปัดมือหยอกล้อแกล้งลูบหาที่ปลดกางเกงเนิ่นนานผ่านเนื้อผ้าอยู่ใต้น้ำนั่น
.. ปลด..อย่างอื่นสิครับ
ตะขอกางเกงเขาน่ะ ปลดได้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่มือผมมันไม่หยุดแค่รูดซิบลงน่ะสิ
อยากช่วยปลด..ปล่อย แทนปลดกางเกงได้ไหมคนดี
..มือบางจับข้อมือผม กึ่งจะดันแต่ก็กำข้อมือผมแน่น หืม ยังไงครับ
ชอบ ไม่ชอบ จะดันออก หรือให้ทำต่อ
แมวน้อยของผม สับสนตัวเองจังนะ หึหึ
บอกแล้วว่าขอผมค้นหาคำตอบให้แน่ใจ
ยังไม่ต้องตอบในสิ่งที่ไม่แน่ใจหรอก ผมจะรอ
“คุณ..อย่า อ่ะ อือ”
“ผมจะช่วยปลดให้”
“ไม่เอา นี่คุณ!! เอามือออกไป อย่า .. อ๊ะ”
ผมหัวเราะ หยุดมือเกเรที่แกล้งปลุกอารมณ์พลุ่งพล่าน ก็อยากให้เขารู้สึกดีด้วย
ดึงกางเกงเขาโยนขึ้นไปกองบนพื้นข้างขอบสระ
เสื้อบางๆที่โดนปลดกระดุมหมดนั่นด้วย
ตามด้วยเสื้อผ้าเปียกๆของตัวเอง
ทีละชิ้น ทีละชิ้น
อ่า.. ผมบอกจะเอาไปตากเหรอ ตากบนพื้นก่อนนะ ยังไม่อยากขึ้นจากน้ำตอนนี้ มันหนาว
ชำนาญการเพลย์บอยเก่าสายล่าแต้มอย่างผม เขายังมึนๆรู้ตัวอีกทีก็แช่ในน้ำแบบไม่ต้องมีอะไรขวางหูขวางตาแล้ว
“แช่ตัวในน้ำดึกๆดีต่อสุขภาพนะครับ”
ไม่พูดเปล่า มือผมเริ่มอยู่ไม่สุข ลูบไปตามผิวขาวเนียนใต้ผิวน้ำ ..นุ่มมือ
จะตรงไหนก็สวยน่าสัมผัสไปหมด
จากลำคอ ไหล่มน ไหปลาร้า ต่ำลงมาหน่อย หน้าอกแบนราบ ปัดผ่านตุ่มไตสีหวาน ลากเรื่อยต่ำลง
หน้าท้อง บอบบางแต่ก็หุ่นดี
เขาดูแลตัวเองแบบไหน ถึงได้ขาวไปหมดทั้งตัวน่า... รัก แบบนี้
ผมขยับเข้าใกล้ กดหน้าลงแถวไหล่เขา
กดจูบ ซุกไซ้ไปทั่วจนเส้นผมตัวเองเปียกชุ่มน้ำ เขาขยับออกนิดหน่อย
ผมเงยหน้าสบตากลมฉ่ำหวานไม่ต่างกัน
.. รู้สึกดีเหมือนกันใช่ไหม ..
ถึงผมจะอยากเร่งให้ถึงฝั่งฝันหรือรีบร้อนจนจะทนไม่ไหวแค่ไหน
ก็อยากค่อยๆซึบซับความรู้สึกจากเขา
ซักนิด ให้ได้ค้นหา
ภายใต้คำว่าเซ็กส์ .. หรือ 'แค่เซ็กส์'
เล้าโลมไปตามร่างบอบบางที่หนีไปไหนไม่ได้ มือบางขยุ้มเส้นผมเปียกน้ำดำขลับของผมที่แทบไม่เคยยอมให้ใครเล่นหัวได้แบบนี้
..ผมยิ้มกับแรงผลักออกเบาๆ แม้นิ้วเรียวจะขยุมขยำเส้นผมจนจะหลุดติดมือเขาอยู่แล้ว
ส่งลิ้นเลียเม็ดสีสดที่เริ่มชูชันตามแรงอารมณ์ อีกมือรูดรั้งส่วนอ่อนไหวไวต่อสัมผัส ถึงมองไม่เห็นผิวกายขาวๆทั้งหมดใต้ผิวน้ำเลือนลางนั่น แต่ผมว่ามันโคตรจะเซ็กซี่เร้าใจมากเลย
โดยเฉพาะเสียงดุๆปนหอบหนักที่ไม่ยอมลงให้ผมง่ายๆ
ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหน
น่ารักไม่เปลี่ยน
“นี่..คุณ อ..อย่า เดี๋ยวคนเห็น”
ผมยิ้มให้เขา มองดูผลงานที่ตัวเองทำไว้อย่างพอใจ เขาเริ่มจะหลุดอาการ
หึ ผมก้มหน้าไปใกล้กระซิบข้างหู เสียงแหบต่ำด้วยแรงอารมณ์ไม่ต่างกัน
“จะเห็นได้ไงครับ นี่มัน..ชั้นยี่สิบห้านะ”
.
.
.
น้ำในสระไหวตามแรงของร่างสองร่างที่ประสานแนบกายกัน ค่ำคืนฟ้ามืดสนิท สิ่งมีชีวิตต่างพากันหลับใหล
ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอก
.
.
ความรู้สึกอุ่นร้อนลึกซึ้งที่ทำเอาแทบคลั่งตาย ในขณะที่ร่างของเราถูกโอบล้อมด้วยน้ำอุณหภูมิเย็นกว่าร่างกายตอนนี้มากนัก
“อื้อ อืม”
“อ๊ะ”
แฮ่ก แฮ่ก
“รู้สึกดีไหมครับ”
“คริส..”
“เจ็บรึเปล่า”
“เลิกถามได้มั้ย.. อ๊ะ .. ฮ่ะห์ อ๊าา”
หยดน้ำเกาะพราวตามร่างเราทั้งคู่ น้ำจากสระเย็นแค่ไหนแต่อุณหภูมิตอนนี้ รู้สึกถึงแต่ความร้อนจากร่างกาย เสียงน้ำกระทบขอบสระดังเหมือนเสียงคลื่นบรรเลงเสนาะหู
มันเป็นความรู้สึกที่ดี ดีมากๆเลย
“อ่ะ .. อ๊า แรง..ไป คุณ! อ..”
“ขอโทษที ผม..เห็นคริสแล้วคุมตัวเองไม่ได้ทุกที”
ดันกายเข้าลึก กระแทกจุดเดิมที่อีกฝ่ายน่าจะรู้สึกดีย้ำๆ ใบหน้าขาวขึ้นสีเรื่อน่ามอง
เท่าไหร่ก็ไม่พอจริงๆ
"ตรงนี้เหรอครับ"
"อย่า.. อ.. อะ อา อ๊า.."
"ไม่ชอบเหรอครับ .. "
ปฏิเสธกันด้วยเสียงครวญครางแว่วหวานแบบนั้น .. จะให้ผมเข้าใจว่ายังไง
มองเจ้าของร่างบอบบางที่ร่างกายดูจะทรยศเจ้าของเหลือเกินในเมื่อความอุ่นร้อนยังตอบสนองผมอย่างดีผิดกับคำเอ่ยห้ามของเจ้าตัว
คริสเสหลบตา ใบหน้าน่ามองเผยอปากหอบหายใจ ทั้งยังพยายามสะกดกั้นเสียงครางหวานๆโดยการกัดเม้มริมฝีปากตัวเองแน่น
อยากได้ยินเสียงเขาจะแย่ อย่าปฏิเสธกันเลย
ผมคลึงนิ้วบนเรียวปากบางปลอบประโลม กลัวผิวบอบบางจะเป็นแผล ..
เป็นอีกครั้งที่เราเผลอมองสบตากัน เขาไม่เอ่ยถ้อยคำใด
ผมได้แต่ปล่อยให้ตัวเองถูกแรงดึงดูดจากส่วนลึก
ประกบจูบลงไปแผ่วเบา .. ทั้งกระแทกกายซ้ำๆ
“อืออ อือ”
หลับตาลงรับสัมผัสหวานล้ำที่เก็บเกี่ยวได้ไม่รู้จักพอ ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นมองอีกฝ่ายที่หลับตาพริ้มรับจูบอย่างเผลอไผล
จังหวะเดียวกับที่เขายกแขนสองข้างขึ้นโอบรอบคอผมอย่างลืมตัว
แค่ชั่วขณะเดียว ก่อนมือคู่นั้นจะเริ่มจับไหล่ผมเหมือนจะดันออก
.. ให้สายน้ำค่อยๆซึมซับความรู้สึกของเราไป
แมวน้อยผละออก แม้เสียงใสๆจะควบคุมแทบไม่ได้
บทเพลงรักของเรา ผมยังไม่หยุดให้เขาได้พักซักนาที
“..พ..พอก่อน”
เห็นเขาหันหน้ามองออกไปด้านข้างนอกกระจก
แม้ไม่ได้พูดอะไร แต่จากแววตาผมก็เดาได้ ไอ้ความรู้สึกเปิดโล่งเห็นวิวกึ่งเอ้าท์ดอร์แบบนี้ เขาคงไม่คุ้น มันเขินๆสินะ
แมวน้อยผมนี่น่ารักน่ารังแกจริงๆ
“ไม่ต้องกลัวน่า ถ้าใครเห็น ผมจะจ่ายเงินปิดปากซักล้านนึง อย่ากังวลเลย”
“คุณมัน.. อ่ะ อืม”
ผมจูบปลอบ กดกายแนบแน่นเข้าชิดใกล้อีก ตามอารมณ์พุ่งสูงจนแทบทนไม่ไหว
ในมหานครที่คนกำลังหลับใหลหรือปาร์ตี้เคล้าแสงไฟ จะมีใครที่มีความสุขเท่าผมไหม
ที่ได้มีคนอย่างเขาเคียงข้างกาย
ผมเองก็ไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับคู่นอนคนไหนเหมือนกัน
คอนโดนี้ถึงจะซื้อมาปล่อยทิ้งไว้เปล่าๆ มาบ้างไม่มาบ้าง แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเข้ามาได้
ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้ามาถึงโซนพิเศษของผมได้
บอกแล้วครับ จะโทษก็โทษบรรยากาศพาไป อย่าโทษผมเลยนะแมวน้อย
แต่มันก็เร้าใจดีออกไม่ใช่เหรอ
ขยับกายเข้าออก เนิบช้าสลับรุนแรง มันไม่ได้ลำบากอะไรนักเมื่อน้ำเป็นเสมือนตัวหล่อลื่นชั้นดี
ไม่ต้องใช้เจล ใช้อะไรแล้วครับในตอนนี้
อา .. จะถุงยางก็เหมือนกัน ไม่จำเป็น
ผมไม่รู้จะใช้กับเขาไปทำไม
เลิกมั่วไปนานแล้ว ตอนนี้อยากรู้สึก ให้ลึก..สุดในความรู้สึกเลย
“อ..อือ อ๊ะ อ๊า”
เขาขยับตัวอย่างอึดอัด มือบางวางทาบกระจกใสช่วยพยุงตัวไม่ให้ลื่นตามแรงกระแทกกระทั้นเบื้องล่าง
หยดน้ำเกาะพราวจากมือไหลลงจากกระจก
เซ็กซี่อะไรอย่างนี้
ผมจับรวบเอวเขา ขยับตัวพลิก ดันหลังเขาติดฝั่งกระจกแทน ..
“แค่นี้ก็ไม่ต้องกังวลแล้วดีไหม ไม่มีใครเห็นแล้วครับ ถ้าเห็นก็เห็นแต่ผมคนเดียว”
ประสานมือตัวเองกับมือเขา กดมือบางสองข้างติดกระจก โถมกายเข้าลึกจนเสียงใสหอบคราง ทำเอาใจสั่นระรัว
อืม แมวน้อยยั่วผมเหรอ
“คุณสิงโต!”
ผมกดใบหน้าลงดูดดึงตีตราทำรอยรักสีกุหลาบไปทั่วตัวเขา เงยหน้ามองเสียงดุๆ
“อันนี้เรียกผมเพราะอยากย้ำให้คำด่าส่งไปถูกคนไวๆ หรือว่า... เรียกเพราะ..”
ผมแกล้งขยับตัวออก ก่อนกระแทกเข้าไปลึกๆ
“อ๊ะ!! อื้อ อ.. อ๊า”
“เรียกชื่อผมแล้วทำเสียงแบบนี้..ผมก็แย่สิครับ”
ผมหัวเราะทะเล้น จูบปิดปากก่อนที่จะทันได้โดนเขากราดคำด่าใส่
ส่งสายตาวิบวับมากความหมายให้เขา
อีกนิดคงไม่ไหว
ถ้าจะปั่นป่วนหัวใจกันขนาดนี้
.
.
“โ...อ๊ย คุณสิงโต!! ผม..”
“จะเสร็จเหรอครับ”
“เจ็บ! ไอ้ .. อือ อืออ”
“ขอโทษๆ ผมจับมือคริสแรงไปเหรอ งั้นกอดผมสิ หรือให้ผมกอด อืมม”
“ไ..ม่ .. อ..”
ผมรู้ ผมรู้ มันไม่ง่าย
การค้นหาบางอย่างจากบางคน ไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่อย่างหนึ่งที่ผมรู้
นี่มันเลยเที่ยงคืนไปตั้งนานแล้ว
.. และผมไม่ได้มีข้อต่อรองอะไรอีกในตอนนี้ เวลานี้ เขารู้ดี
ตอนนี้ผมไม่ได้บังคับเขาเหมือนที่ผ่านมา
ผมเปิดช่องว่างทุกทาง แค่เขาจะผลักออกแล้วลุกหนีไปก็ได้
ง่ายดายแต่ก็ไม่ทำ
.
.
คุณไม่ได้เห็นมันเป็น ‘แค่เซ็กส์’ จริงๆหรอกใช่ไหมครับ ... แมวน้อยของผม
---------------
--- อ่านต่อที่เด็กดี ---
อากาศเย็นๆเคล้าแสงดาวในค่ำคืนนี้
หรืออาจจะเพราะ ..
คำบอกชอบของผม ที่ทำให้เขาลืมตัวไป
อาจจะเพราะเขาไม่ได้ใส่ใจดังคำที่บอกว่า .. มันก็แค่เซ็กส์ ..
เพราะแบบนั้นใช่ไหม คริสถึงเปิดช่องว่างให้ผมมากมายขนาดนี้
ช่องว่างให้ประชิดตัว
ให้เราได้สัมผัสกัน
มากกว่าราคะปรารถนา ที่ปะปนไปกับความรู้สึกลุ่มหลงมากกว่าเคย
“อือ นี่คุณ...”
“ครับ”
ผมขานรับ ซุกหน้าอยู่บริเวณซอกคอขาวเปียกชื้นน้ำ เปียกไปหมด ยิ่งสะท้อนแสงไฟรอบๆ ดวงหน้าหวานของเขาทำให้ผมเหมือนต้องมนตร์สะกด
กี่ครั้งที่มอง ก็เหมือนต้องมนตร์
ผิดที่เขา ที่ทำให้ผมไปไหนไม่รอด แม้จะพยายามตัดใจไปแล้วครั้งหนึ่ง ก็ยังวนกลับมาที่เดิม
มันเริ่มไม่ปกติมากขึ้นทุกที .. ผมรู้ ผมรู้มาตลอดถึงความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวเองแต่ก็ไม่เคยแน่ใจซักครั้ง
แม้แต่ตอนนี้
รู้ก็แต่ อยากจะโอบรั้งผิวกายขาวเนียนนี้ไว้แนบกาย หยุดเวลาเอาไว้ ไม่ต้องคิดอะไร
ขอแค่ได้อยู่กับเขาในค่ำคืนนี้
.. ผมไม่อยากบังคับ ไม่อยากให้เขารู้สึกว่าผมต้องการแค่เรื่องอย่างว่า
แต่มันก็ทำได้ยาก
คนที่ชอบอยู่ตรงหน้าแบบนี้ ผมไม่ใช่สุภาพบุรุษนักหรอกครับ
ผมเป็นแค่คนธรรมดา ที่ยอมแลกเงิน แลกทุกอย่าง เพื่อให้ได้สิ่งที่ปรารถนา
ถ้าหัวใจมีราคาผมคงจ่ายหมดตัว
แต่เพราะผมไม่รู้ว่ามันราคาเท่าไหร่ .. แล้วเขาจะยอมขายให้ผมไหม
นั่นแหละปัญหา
และเหนือไปกว่านั้น ลึกๆผมก็ไม่รู้ตัวเลยว่าทำไมอยู่ๆผมถึงต้องการ 'หัวใจ' ของเขา
“ถ้าผมไม่มารังควานทำให้หงุดหงิดใจแบบนี้ คริสจะคิดถึงผมบ้างไหม”
ผมออกแรงดึงเขาเข้ามากอด ผิวน้ำสงบนิ่งสั่นไหวยามร่างกายเราเข้ามาใกล้ชิดกัน แมวน้อยอิงซบอยู่บนอกผม จะขืนตัวออก แต่ผมยังกอดเขาไว้
“ไม่”
“จริงเหรอครับ”
ผมยิ้ม ซบศีรษะตัวเองลงบนเส้นผมนุ่ม เราหันหน้าเข้าหากัน น้ำลึกเพียงระดับอกยามเรานั่งบนช่วงพื้นต่างระดับที่สร้างไว้รอบๆมุมสระให้นั่งพักเหนื่อยแบบนี้
ไม่มีความหนาวให้รู้สึก มีแต่ความร้อนจากร่างกายผมวนเวียนไปมา
รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่มีเขาชิดใกล้
หัวใจเหมือนจะหลุดออกจากอกให้ได้
จุดจบเพลย์บอยอย่างผม ไม่น่าพ่ายแพ้ให้แมวน้อยจอมพยศที่ไม่หลงคารมกันเลยซักนิด
เสียชื่อสิงโตนักล่าชะมัด
“แต่ผมคิดถึง.. ขนาดมาหาคริสทุกวันยังคิดถึงเลย อยากเห็นหน้าตลอดเวลา อยากกอดทุกคืน..”
“...”
“ผมอาจจะไม่เหมือนคนอื่นที่คริสเคยเจอก็ได้นะ”
ไม่รู้อะไรที่ทำให้ผมพูดแบบนั้นออกไป.. อาจจะเพราะความระแวดระวังและดูไม่เปิดใจง่ายๆของเขาที่ทำให้ผมอยากวอนขอที่จะก้าวเดินเข้าไปใกล้เขาซักก้าว
ก้าวที่ใกล้กว่าที่ใครจะได้สิทธิ์นั้น
..หรือมันอาจเป็นความรู้สึกอยากเอาชนะใจเขาให้ได้ .. กับเพลย์บอยที่ไม่รู้จักคำว่าพ่ายแพ้อย่างผม
อยากทลายกำแพงเพื่อไขว่คว้าให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ
ดวงตากลมสบมองผมเหมือนไม่เชื่อ
ไม่รอช้า ผมปิดกั้นคำพูดเขาด้วยจูบแสนหวานที่ไม่รุกรานเหมือนครั้งไหนๆที่ผ่านมา
เป็นอีกครั้งที่เขาดันตัวเองจะออกจากอ้อมกอดผม
ก่อนจะหยุดนิ่งชะงักงัน แมวน้อยสงบลง ลดแรงพยศอย่างลืมตัวเมื่อผมใช้ปลายนิ้วปัดเส้นผมเปียกน้ำที่ปรกหน้าเสยไปด้านหลัง เกลี่ยสางผมเขาเล่นเหมือนลูบหวีขน ช่วยปลอบเอาใจแมวน้อยดื้อดึง
ลูบศีรษะเขาแผ่วเบาไปมา
“คุณสิงโต..!”
“ครับ”
ผมมอง..
มองดวงตาสั่นไหวคู่สวยสะท้อนแสงไฟ ดูอ่อนลงอย่างไม่น่าเชื่อ
..ดูเหมือนเขาจะชอบนะ..
อืม
?!
ทำไมผมรู้สึกเหมือนคุ้นเคยกับใครซักคน ที่ชอบความอ่อนโยนแบบนี้ พยศดื้อดึงแบบนี้
น้อยคนแม้แต่คู่นอนที่ผมจะอ่อนโยนหรือเอ็นดู ก็แค่คู่นอน จะเย้ายวน ออดอ้อนเก่งแค่ไหนก็ไม่เคยมีซักครั้งที่ผมจะอยากอ่อนโยนด้วย
หรือเราจะเคยรู้จักกันมาก่อน
อาจจะชาติที่แล้ว ฮ่าๆ
ตลกน่า..
แต่ก็ไม่แปลกจริงไหมที่บางเหตุการณ์มันทำให้เรารู้สึกเหมือนเคยผ่านอะไรแบบนี้มาก่อน ในชีวิตเรา
หรือเขาอาจเหมือนคู่ขาของผมคนไหนที่เคยนอนด้วย ก็อาจใช่ ผมผ่านอะไรแบบนี้มาเยอะแยะ
แต่ที่ผมบอกว่าแปลก หมายถึง ..ความรู้สึกพิเศษแบบนี้
อาจจะเพราะผมชอบคนแบบนี้ นิสัยแบบนี้ มันเลย ..
อา รู้สึกแปลกๆดีแฮะ
ผมเผลอลูบไล้ สางผมเขาเล่นพลางคิดฟุ้งซ่านอย่างลืมตัวจนโดนเสียงใสๆแหวใส่
มือบางดันมือผมออก ขยับตัวออกห่างเล็กน้อย
“ทำอะไรของคุณ”
ผมหัวเราะ จับมือเขาสอดประสานเรียวนิ้วของเราเข้าด้วยกัน
“ถ้าไม่ชอบให้รุนแรง ผมจะทำตามใจคริสบ้าง .. รู้ไหมที่บังคับ เพราะคริสน่ารักน่าแกล้งเองนะครับ..แต่จริงๆแล้ว .. คริสเป็นมากกว่าแค่เรื่องเซ็กส์”
จุ๊บ
ผมจุ๊บเขาแผ่วๆ พอยื่นหน้าเข้าใกล้ แมวน้อยเผลอหลับตาลงรับสัมผัสนั้น ไม่ต่อต้าน
เขาอาจจะตามเกมส์ผมไม่ทันจนยอมให้ผมทำอะไรที่อยากทำแล้วหยุดวุ่นวายกับเขาไปเอง
อืม น่ารักจังครับ
แต่เขาก็คงรู้ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอกที่ผมจะหยุด
ยิ่งกับตอนนี้ เวลานี้ด้วยแล้ว
“คงจะดี ถ้าเรารู้สึกไปด้วยกัน ..ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว”
ไล้ลิ้นเลียปากบางที่เผยอเชิญชวนอย่างไม่ตั้งใจ ดูดดึงเบาๆกลั่นแกล้ง
ได้ยินเสียงอีกฝ่ายครางเครือในลำคอ
อืม ถ้าคริสคิดว่าแค่เซ็กส์ ก็อย่าทำแบบนี้แกล้งกันสิครับ
เพราะผมคิดมาก .. คิดมากกว่านั้นเยอะเลย จะไม่ไหวแล้วนะ
มือซุกซนของผมลดลงต่ำตามอารมณ์ปรารถนาและเสียงในหัวใจ ปลดกระดุมเสื้ออีกฝ่ายแม้จะมองไม่เห็นในระดับใต้สระน้ำนั่น มือบางวุ่นวายจะปัดมือผมออกพัลวัน
“คุณสิงโต ! หยุดเลย”
..เห็นเคลิ้มๆนึกว่าจะอยากให้ผมทำอะไรให้ซะอีก โธ่ แมวน้อย
“อะไรครับ เปียกแบบนี้เมื่อไหร่จะแห้ง เดี๋ยวไม่ได้กลับโมเต็ลกันพอดี หืม เดี๋ยวผมไปตากให้ ถอดกางเก...”
“อย่ามาหลอกผมไม่ใช่เด็กนะ คุณลูกค้า คุณน่ะมันเจ้าเล่ห์”
“ไม่ถอดแล้วจะตากยังไง อยู่ในน้ำไม่เป็นไรหรอกน่า มา ผมไม่มอง ถอดส่งมา”
“ไม่ต้อง”
“ไม่ถนัดใช่ไหม งั้นผมช่วยนะ ไม่ทำอะไรหรอก”
“บอกว่าไม่ต้อง อ๊ะ.. คุณ..!! อ..”
เขาถอยตัวเองไปติดขอบสระ กลายเป็นผมที่ยิ่งเข้าใกล้จนเหมือนจะคร่อมเขา
ตั้งใจจะช่วยปลดกางเกงออกไปตากให้จริงๆนะครับ แต่ อ่าา..
มันมองไม่เห็น คลำผิดไปหน่อย
รู้สึกดีชะมัด ..
“..ให้ผมช่วย”
ผมยิ้มกริ่มมองหน้าเขาที่ขึ้นสีแดงเรื่อจางๆกับแววตาขุ่นๆนั่น
“ม.. คุณ เอามือออกไป”
มือเขาพยายามดันมือผมที่กำลังปัดมือหยอกล้อแกล้งลูบหาที่ปลดกางเกงเนิ่นนานผ่านเนื้อผ้าอยู่ใต้น้ำนั่น
.. ปลด..อย่างอื่นสิครับ
ตะขอกางเกงเขาน่ะ ปลดได้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่มือผมมันไม่หยุดแค่รูดซิบลงน่ะสิ
อยากช่วยปลด..ปล่อย แทนปลดกางเกงได้ไหมคนดี
..มือบางจับข้อมือผม กึ่งจะดันแต่ก็กำข้อมือผมแน่น หืม ยังไงครับ
ชอบ ไม่ชอบ จะดันออก หรือให้ทำต่อ
แมวน้อยของผม สับสนตัวเองจังนะ หึหึ
บอกแล้วว่าขอผมค้นหาคำตอบให้แน่ใจ
ยังไม่ต้องตอบในสิ่งที่ไม่แน่ใจหรอก ผมจะรอ
“คุณ..อย่า อ่ะ อือ”
“ผมจะช่วยปลดให้”
“ไม่เอา นี่คุณ!! เอามือออกไป อย่า .. อ๊ะ”
ผมหัวเราะ หยุดมือเกเรที่แกล้งปลุกอารมณ์พลุ่งพล่าน ก็อยากให้เขารู้สึกดีด้วย
ดึงกางเกงเขาโยนขึ้นไปกองบนพื้นข้างขอบสระ
เสื้อบางๆที่โดนปลดกระดุมหมดนั่นด้วย
ตามด้วยเสื้อผ้าเปียกๆของตัวเอง
ทีละชิ้น ทีละชิ้น
อ่า.. ผมบอกจะเอาไปตากเหรอ ตากบนพื้นก่อนนะ ยังไม่อยากขึ้นจากน้ำตอนนี้ มันหนาว
ชำนาญการเพลย์บอยเก่าสายล่าแต้มอย่างผม เขายังมึนๆรู้ตัวอีกทีก็แช่ในน้ำแบบไม่ต้องมีอะไรขวางหูขวางตาแล้ว
“แช่ตัวในน้ำดึกๆดีต่อสุขภาพนะครับ”
ไม่พูดเปล่า มือผมเริ่มอยู่ไม่สุข ลูบไปตามผิวขาวเนียนใต้ผิวน้ำ ..นุ่มมือ
จะตรงไหนก็สวยน่าสัมผัสไปหมด
จากลำคอ ไหล่มน ไหปลาร้า ต่ำลงมาหน่อย หน้าอกแบนราบ ปัดผ่านตุ่มไตสีหวาน ลากเรื่อยต่ำลง
หน้าท้อง บอบบางแต่ก็หุ่นดี
เขาดูแลตัวเองแบบไหน ถึงได้ขาวไปหมดทั้งตัวน่า... รัก แบบนี้
ผมขยับเข้าใกล้ กดหน้าลงแถวไหล่เขา
กดจูบ ซุกไซ้ไปทั่วจนเส้นผมตัวเองเปียกชุ่มน้ำ เขาขยับออกนิดหน่อย
ผมเงยหน้าสบตากลมฉ่ำหวานไม่ต่างกัน
.. รู้สึกดีเหมือนกันใช่ไหม ..
ถึงผมจะอยากเร่งให้ถึงฝั่งฝันหรือรีบร้อนจนจะทนไม่ไหวแค่ไหน
ก็อยากค่อยๆซึบซับความรู้สึกจากเขา
ซักนิด ให้ได้ค้นหา
ภายใต้คำว่าเซ็กส์ .. หรือ 'แค่เซ็กส์'
เล้าโลมไปตามร่างบอบบางที่หนีไปไหนไม่ได้ มือบางขยุ้มเส้นผมเปียกน้ำดำขลับของผมที่แทบไม่เคยยอมให้ใครเล่นหัวได้แบบนี้
..ผมยิ้มกับแรงผลักออกเบาๆ แม้นิ้วเรียวจะขยุมขยำเส้นผมจนจะหลุดติดมือเขาอยู่แล้ว
ส่งลิ้นเลียเม็ดสีสดที่เริ่มชูชันตามแรงอารมณ์ อีกมือรูดรั้งส่วนอ่อนไหวไวต่อสัมผัส ถึงมองไม่เห็นผิวกายขาวๆทั้งหมดใต้ผิวน้ำเลือนลางนั่น แต่ผมว่ามันโคตรจะเซ็กซี่เร้าใจมากเลย
โดยเฉพาะเสียงดุๆปนหอบหนักที่ไม่ยอมลงให้ผมง่ายๆ
ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหน
น่ารักไม่เปลี่ยน
“นี่..คุณ อ..อย่า เดี๋ยวคนเห็น”
ผมยิ้มให้เขา มองดูผลงานที่ตัวเองทำไว้อย่างพอใจ เขาเริ่มจะหลุดอาการ
หึ ผมก้มหน้าไปใกล้กระซิบข้างหู เสียงแหบต่ำด้วยแรงอารมณ์ไม่ต่างกัน
“จะเห็นได้ไงครับ นี่มัน..ชั้นยี่สิบห้านะ”
.
.
.
น้ำในสระไหวตามแรงของร่างสองร่างที่ประสานแนบกายกัน ค่ำคืนฟ้ามืดสนิท สิ่งมีชีวิตต่างพากันหลับใหล
ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอก
.
.
ความรู้สึกอุ่นร้อนลึกซึ้งที่ทำเอาแทบคลั่งตาย ในขณะที่ร่างของเราถูกโอบล้อมด้วยน้ำอุณหภูมิเย็นกว่าร่างกายตอนนี้มากนัก
“อื้อ อืม”
“อ๊ะ”
แฮ่ก แฮ่ก
“รู้สึกดีไหมครับ”
“คริส..”
“เจ็บรึเปล่า”
“เลิกถามได้มั้ย.. อ๊ะ .. ฮ่ะห์ อ๊าา”
หยดน้ำเกาะพราวตามร่างเราทั้งคู่ น้ำจากสระเย็นแค่ไหนแต่อุณหภูมิตอนนี้ รู้สึกถึงแต่ความร้อนจากร่างกาย เสียงน้ำกระทบขอบสระดังเหมือนเสียงคลื่นบรรเลงเสนาะหู
มันเป็นความรู้สึกที่ดี ดีมากๆเลย
“อ่ะ .. อ๊า แรง..ไป คุณ! อ..”
“ขอโทษที ผม..เห็นคริสแล้วคุมตัวเองไม่ได้ทุกที”
ดันกายเข้าลึก กระแทกจุดเดิมที่อีกฝ่ายน่าจะรู้สึกดีย้ำๆ ใบหน้าขาวขึ้นสีเรื่อน่ามอง
เท่าไหร่ก็ไม่พอจริงๆ
"ตรงนี้เหรอครับ"
"อย่า.. อ.. อะ อา อ๊า.."
"ไม่ชอบเหรอครับ .. "
ปฏิเสธกันด้วยเสียงครวญครางแว่วหวานแบบนั้น .. จะให้ผมเข้าใจว่ายังไง
มองเจ้าของร่างบอบบางที่ร่างกายดูจะทรยศเจ้าของเหลือเกินในเมื่อความอุ่นร้อนยังตอบสนองผมอย่างดีผิดกับคำเอ่ยห้ามของเจ้าตัว
คริสเสหลบตา ใบหน้าน่ามองเผยอปากหอบหายใจ ทั้งยังพยายามสะกดกั้นเสียงครางหวานๆโดยการกัดเม้มริมฝีปากตัวเองแน่น
อยากได้ยินเสียงเขาจะแย่ อย่าปฏิเสธกันเลย
ผมคลึงนิ้วบนเรียวปากบางปลอบประโลม กลัวผิวบอบบางจะเป็นแผล ..
เป็นอีกครั้งที่เราเผลอมองสบตากัน เขาไม่เอ่ยถ้อยคำใด
ผมได้แต่ปล่อยให้ตัวเองถูกแรงดึงดูดจากส่วนลึก
ประกบจูบลงไปแผ่วเบา .. ทั้งกระแทกกายซ้ำๆ
“อืออ อือ”
หลับตาลงรับสัมผัสหวานล้ำที่เก็บเกี่ยวได้ไม่รู้จักพอ ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นมองอีกฝ่ายที่หลับตาพริ้มรับจูบอย่างเผลอไผล
จังหวะเดียวกับที่เขายกแขนสองข้างขึ้นโอบรอบคอผมอย่างลืมตัว
แค่ชั่วขณะเดียว ก่อนมือคู่นั้นจะเริ่มจับไหล่ผมเหมือนจะดันออก
.. ให้สายน้ำค่อยๆซึมซับความรู้สึกของเราไป
แมวน้อยผละออก แม้เสียงใสๆจะควบคุมแทบไม่ได้
บทเพลงรักของเรา ผมยังไม่หยุดให้เขาได้พักซักนาที
“..พ..พอก่อน”
เห็นเขาหันหน้ามองออกไปด้านข้างนอกกระจก
แม้ไม่ได้พูดอะไร แต่จากแววตาผมก็เดาได้ ไอ้ความรู้สึกเปิดโล่งเห็นวิวกึ่งเอ้าท์ดอร์แบบนี้ เขาคงไม่คุ้น มันเขินๆสินะ
แมวน้อยผมนี่น่ารักน่ารังแกจริงๆ
“ไม่ต้องกลัวน่า ถ้าใครเห็น ผมจะจ่ายเงินปิดปากซักล้านนึง อย่ากังวลเลย”
“คุณมัน.. อ่ะ อืม”
ผมจูบปลอบ กดกายแนบแน่นเข้าชิดใกล้อีก ตามอารมณ์พุ่งสูงจนแทบทนไม่ไหว
ในมหานครที่คนกำลังหลับใหลหรือปาร์ตี้เคล้าแสงไฟ จะมีใครที่มีความสุขเท่าผมไหม
ที่ได้มีคนอย่างเขาเคียงข้างกาย
ผมเองก็ไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับคู่นอนคนไหนเหมือนกัน
คอนโดนี้ถึงจะซื้อมาปล่อยทิ้งไว้เปล่าๆ มาบ้างไม่มาบ้าง แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเข้ามาได้
ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้ามาถึงโซนพิเศษของผมได้
บอกแล้วครับ จะโทษก็โทษบรรยากาศพาไป อย่าโทษผมเลยนะแมวน้อย
แต่มันก็เร้าใจดีออกไม่ใช่เหรอ
ขยับกายเข้าออก เนิบช้าสลับรุนแรง มันไม่ได้ลำบากอะไรนักเมื่อน้ำเป็นเสมือนตัวหล่อลื่นชั้นดี
ไม่ต้องใช้เจล ใช้อะไรแล้วครับในตอนนี้
อา .. จะถุงยางก็เหมือนกัน ไม่จำเป็น
ผมไม่รู้จะใช้กับเขาไปทำไม
เลิกมั่วไปนานแล้ว ตอนนี้อยากรู้สึก ให้ลึก..สุดในความรู้สึกเลย
“อ..อือ อ๊ะ อ๊า”
เขาขยับตัวอย่างอึดอัด มือบางวางทาบกระจกใสช่วยพยุงตัวไม่ให้ลื่นตามแรงกระแทกกระทั้นเบื้องล่าง
หยดน้ำเกาะพราวจากมือไหลลงจากกระจก
เซ็กซี่อะไรอย่างนี้
ผมจับรวบเอวเขา ขยับตัวพลิก ดันหลังเขาติดฝั่งกระจกแทน ..
“แค่นี้ก็ไม่ต้องกังวลแล้วดีไหม ไม่มีใครเห็นแล้วครับ ถ้าเห็นก็เห็นแต่ผมคนเดียว”
ประสานมือตัวเองกับมือเขา กดมือบางสองข้างติดกระจก โถมกายเข้าลึกจนเสียงใสหอบคราง ทำเอาใจสั่นระรัว
อืม แมวน้อยยั่วผมเหรอ
“คุณสิงโต!”
ผมกดใบหน้าลงดูดดึงตีตราทำรอยรักสีกุหลาบไปทั่วตัวเขา เงยหน้ามองเสียงดุๆ
“อันนี้เรียกผมเพราะอยากย้ำให้คำด่าส่งไปถูกคนไวๆ หรือว่า... เรียกเพราะ..”
ผมแกล้งขยับตัวออก ก่อนกระแทกเข้าไปลึกๆ
“อ๊ะ!! อื้อ อ.. อ๊า”
“เรียกชื่อผมแล้วทำเสียงแบบนี้..ผมก็แย่สิครับ”
ผมหัวเราะทะเล้น จูบปิดปากก่อนที่จะทันได้โดนเขากราดคำด่าใส่
ส่งสายตาวิบวับมากความหมายให้เขา
อีกนิดคงไม่ไหว
ถ้าจะปั่นป่วนหัวใจกันขนาดนี้
.
.
“โ...อ๊ย คุณสิงโต!! ผม..”
“จะเสร็จเหรอครับ”
“เจ็บ! ไอ้ .. อือ อืออ”
“ขอโทษๆ ผมจับมือคริสแรงไปเหรอ งั้นกอดผมสิ หรือให้ผมกอด อืมม”
“ไ..ม่ .. อ..”
ผมรู้ ผมรู้ มันไม่ง่าย
การค้นหาบางอย่างจากบางคน ไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่อย่างหนึ่งที่ผมรู้
นี่มันเลยเที่ยงคืนไปตั้งนานแล้ว
.. และผมไม่ได้มีข้อต่อรองอะไรอีกในตอนนี้ เวลานี้ เขารู้ดี
ตอนนี้ผมไม่ได้บังคับเขาเหมือนที่ผ่านมา
ผมเปิดช่องว่างทุกทาง แค่เขาจะผลักออกแล้วลุกหนีไปก็ได้
ง่ายดายแต่ก็ไม่ทำ
.
.
คุณไม่ได้เห็นมันเป็น ‘แค่เซ็กส์’ จริงๆหรอกใช่ไหมครับ ... แมวน้อยของผม
---------------
--- อ่านต่อที่เด็กดี ---
Wednesday, September 25, 2019
Teach me, Teacher | CUT สมุดการบ้าน.07 - หน้าแรกของความลับ
ผมยังจับต้นชนปลายไม่ถูก
ใบหน้าหล่อเหลาคมคายก้มลงมาในองศาอันตรายเหมือนจะฉกชิงความหวานจากริมฝีปากผมอีกครั้ง
ผมเบี่ยงหลบ และได้ยินเสียงหัวเราะร้ายดังสะท้อนกลับมา
.. แกล้ง.. ไอ้อาจารย์มันเริ่มแกล้งผมอีกแล้ว
ไม่ชอบเลย.. เหมือนจะแพ้ ..จะแพ้ไม่ได้
“ยังพยศเหมือนเดิมเลยนะ พี่บอกแล้วไง.. ให้เลิกดื้อ โดยเฉพาะกับ แฟน”
แย่ แย่แน่ๆ สัญชาตญาณมันบอกแบบนั้น
“..เล่นอะไรจารย์ ไหนบอกจะสอนแอดมิชชัน ถอยไป
อย่าแกล้งดิ ผมง่วงแล้ว”
“นี่ไง.. กำลังจะสอน
ใจเย็นๆสิครับ น้องคริส”
น้องคริสอะไรวะเนี่ยยย อาจารย์แม่ง.. ขอด่าหน่อยได้มั้ย
“ไอ้.. อื้ออ”
อยู่ๆก็โดนประกบปาก แต่จูบครั้งนี้.. มันรุนแรงกว่าสองครั้งที่ผ่านมาแบบเทียบไม่ได้
ผมพยายามจะหันหน้าหนี แต่อาจารย์ไวกว่า มือเรียวจับคางรั้งให้ใบหน้าขยับหนีไปไหนไม่ได้ ..
ไม่ใช่แค่นั้น ผมเม้มปากแน่นอย่างทำตัวไม่ถูกกับการจู่โจมที่รุนแรง .. แต่ลึกๆก็รู้สึกดี
ไม่ใช่แค่นั้น ผมเม้มปากแน่นอย่างทำตัวไม่ถูกกับการจู่โจมที่รุนแรง .. แต่ลึกๆก็รู้สึกดี
เพียงแต่ร่างกายมันต่อต้านอัตโนมัติ อาจจะเป็นเพราะ.. ความรั้นในตัวเองด้วยนั่นแหละ
ใครจะยอมเคลิ้มตามให้ไอ้คนนิสัยไม่ดีมันได้ใจง่ายๆล่ะ ..
ยังไงก็ .. อืม ริมฝีปากที่กดจูบ
ขยับหยอกล้อ ดูดดึงช้าๆ สลับเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อย กดคลึงย้ำไปย้ำมา จนความคิดฟุ้งซ่านอยากเอาชนะมันจางหายไปแบบมึนๆ
ผมเผลอขยับปากจูบตอบอีกฝ่ายด้วยความลืมตัว
เสียงจ๊วบจ๊าบน่าอายทำให้สติเริ่มกลับมา.. พอพยายามจะขืนตัวหนีอีกครั้ง
ลิ้นชื้นๆกำลังแตะสัมผัสริมฝีปากราวกับต้องการให้ผมทำอะไรซักอย่าง
ทำอะไรล่ะ.. ไม่ ไม่มีทาง
“อื้ออ อื้อ”
ส่งเสียงร้องประท้วงให้ไอ้อาจารย์บ้ามันรู้สึกตัว ผมกำลังจะสำลักลมหายใจตัวเองอีกครั้ง หายใจไม่ทัน แต่อีกฝ่ายก็ไม่มีท่าทีจะปล่อย
ส่งเสียงร้องประท้วงให้ไอ้อาจารย์บ้ามันรู้สึกตัว ผมกำลังจะสำลักลมหายใจตัวเองอีกครั้ง หายใจไม่ทัน แต่อีกฝ่ายก็ไม่มีท่าทีจะปล่อย
.. จนกลายเป็นผมเองที่ต้องยอม เผยอปากโหยหาอากาศ
เพราะทนไม่ไหวอีกต่อไป
และก็รู้ในตอนนั้นว่ามันกลับกลายเป็นการเปิดช่องว่างให้อีกฝ่ายส่งเรียวลิ้นเข้ามาหยอกล้อ ลิ้นอุ่นชื้นเกี่ยวกระหวัดสำรวจไปทั่ว
และก็รู้ในตอนนั้นว่ามันกลับกลายเป็นการเปิดช่องว่างให้อีกฝ่ายส่งเรียวลิ้นเข้ามาหยอกล้อ ลิ้นอุ่นชื้นเกี่ยวกระหวัดสำรวจไปทั่ว
คนช่ำชองกว่าวุ่นวายกับการพยายามดูดดึงลิ้นผม ผมส่งเสียงท้วงยกมือสองข้างขึ้นดันตัวคนที่คร่อมอยู่อย่างไม่รู้ตัว
แต่ก็ไม่ขยับเลยซักนิด ..
ก่อนมือจะแปรเปลี่ยนเป็นขยุ้มเสื้ออีกฝ่ายจนยับยู่ยี่ได้ยังไงก็ไม่รู้
..อาจจะเป็นเพราะ ผมหงุดหงิดที่สู้อาจารย์มันไม่ได้ นั่นแหละ หงุดหงิดชะมัด
“อืมม อือ”
อาจารย์ยังคงหยอกล้อกับจูบที่ทำลายสติผมเตลิดอยู่นาน
จนยอมผละออกอย่างอ้อยอิ่งในช่วงที่ผมเกือบจะขาดอากาศหายใจ .. ผมรีบไขว่คว้าเอาอากาศเข้าปอดทันที
แฮ่ก แฮ่ก
จะฆ่ากันให้ตายรึไง
“ก่อนจะสอน.. บทเรียนที่เคยบอกไปแล้ว
จำด้วย เด็กแสบ .. อย่าพูดหยาบคายกับพี่ครับ
น้องคริส”
ผมหายใจหอบ รู้สึกหมดเรี่ยวแรงขึ้นมาดื้อๆ
สมองที่กำลังคิดหาวิธีเอาชนะอาจารย์อยู่ๆก็ขาวโพลนไปหมด
ไม่ ไม่ได้.. อาจารย์กำลังแกล้งผมชัดๆ.. ได้ อยากเล่นแบบนี้ใช่ไหม
“เรียกใครน้องคริสครับ อาจารย์ปราชญา”
หลังจากตั้งสติได้
ผมเน้นย้ำเสียงกับคำว่าอาจารย์และจงใจเรียกชื่ออีกฝ่ายเต็มยศแบบกวนตีน
ในช่วงที่อาจารย์นั่งมองผมที่หอบเหนื่อย แน่นอนเขาไม่ทันได้ตั้งตัว
เพราะไม่คิดว่าผมจะ.. เอาคืน
ใครจะยอมให้แกล้งอยู่ฝ่ายเดียว
นิสัยอยากเอาชนะของเราทั้งคู่ มันคงไม่จบลงง่ายๆ
ผมจงใจยันตัวลุกขึ้นเร็วๆ
ผลักดันร่างของอาจารย์จนเสียหลักหงายหลังลงบนเตียง
แต่ผมคงจะโถมตัวเข้าใส่แรงไปหน่อย
ตัวเองจึงล้มลงไปด้วยแทนที่จะนั่งเท่ห์คร่อมแขนกักกันอย่างมีมาดเหมือนที่อาจารย์ทำก่อนหน้านี้
กลายเป็นว่าสภาพตอนนี้ ตัวผมเอง นอนแนบอกอีกฝ่ายไปเต็มๆ
ได้ยินเสียงหัวใจด้วยแฮะ..
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
ไม่รู้หัวใจของอาจารย์ หรือหัวใจตัวเอง หรือของเราทั้งคู่ .. แต่รู้สึกดีจัง
“หืม อะไรครับน้องคริส อยากอยู่ข้างบนก็ไม่บอก
แบบนี้ก็ได้นะ”
“พูดบ้าไรของจารย์” ผมยันตัวขึ้น
โวยวายใส่เสียงแข็ง
อยู่ๆความอยากเอาชนะมันพลุ่งพล่านทันทีที่เห็นสีหน้ายิ้มๆปนขำของคนที่อยู่ใต้ร่าง
แล้วความขาดสติของผม ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมก้มลงประทับริมฝีปากลงไป
เลียนแบบที่อีกฝ่ายทำกับผมเมื่อครู่ ..
ไม่ต่างกัน
ราวกับนักเรียนที่เรียนรู้สิ่งที่อาจารย์ถ่ายทอดมาอย่างไม่ผิดเพี้ยน
เพียงแต่อาจจะไม่เชี่ยวชาญเท่าต้นฉบับ
ถึงอย่างนั้นเสียงฮึมฮัมในลำคอของอีกฝ่ายก็ทำให้ผมได้ใจ
กดจูบลงไปมากขึ้น และไม่รู้ผมบ้าไปแล้วหรือไงที่สมองสั่งการให้ส่งเรียวลิ้นออกไปวอนขอให้อีกฝ่ายตอบรับกลับมาบ้าง
.. กว่าจะรู้ว่าทำอะไรลงไป
ก็ตอนที่ได้ยินเสียงตัวเองครางอือ ออกมานั่นแหละ
แย่แล้ว.. ต้องไม่ใช่แบบนี้นี่หว่า
ผมมองวงหน้าคมของอีกฝ่าย
แววตาประกายวาววับหยอกล้อดูพึงพอใจมากกว่าจะตกใจหรือรู้สึกแพ้อย่างที่ต้องการ.. เหมือนจะเป็นผมมากกว่า ที่ถูกหลอกให้เข้าสู่กับดัก
พอจะถอนตัวออก รู้สึกได้ถึงมือที่กดบนศีรษะ .. กดให้แนบชิดกันมากกว่าเดิม
อาจารย์สิงโตส่งลิ้นเข้ามาราวกับจะสอนวิธีการที่ถูกต้อง ที่ดูช่ำชองกว่าที่ผมพยายามทำเมื่อกี๊มากนัก
อาจารย์สิงโตส่งลิ้นเข้ามาราวกับจะสอนวิธีการที่ถูกต้อง ที่ดูช่ำชองกว่าที่ผมพยายามทำเมื่อกี๊มากนัก
สอนอีกครั้ง.. อีกครั้ง อีกครั้ง
มือที่อยู่บนศีรษะลูบไล้ไปด้วยเบาๆ
เรียวนิ้วสางเส้นผมจนผมรู้สึกเคลิ้ม
..บอกอยู่ว่าไม่ชอบ ไอ้อาจารย์สิงโต แม่ม
ไม่ชอบ.. เพราะมันเป็นจุดอ่อนอย่างหนึ่งเนี่ยแหละ
มันทำให้ผมเสียการควบคุม รู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาจนต้องยกมือจับแขนอีกฝ่ายที่กำลังลูบหัวให้หยุด
ผมตีหน้ายุ่งใส่ และคิดว่าอาจารย์มันคงจะเข้าใจ
เพราะบอกไปเกินสองรอบแล้ว ว่าไม่ชอบให้ลูบหัว
..เข้าใจ แต่มันก็ไม่หยุด
ยิ่งห้ามก็ยิ่งทำ.. ต่างจากผมซะที่ไหนล่ะ
ไอ้นิสัยแบบนี้
ฝ่ามือลูบไล้เส้นผมแผ่วเบา ไม่สนใจสีหน้ายุ่งๆและอาการต่อต้าน.. ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังหน้าแดงหูแดง เพราะมันร้อนไปหมด
จะยันตัวเองออกแต่กลับทำให้เสียหลักล้มแนบบนอกแกร่งของอาจารย์อีกรอบ
คราวนี้อาจารย์ถอนจูบออก .. แต่เบี่ยงองศามากระซิบข้างหูใกล้ชิดจนขนลุกซู่
“ไม่ดื้อซักแป๊ปได้ไหม .. คริสเองก็รู้สึกดีไม่ใช่เหรอ”
“อืออ”
เปล่า ผมไม่ได้ตอบรับว่ารู้สึกดี ถึงจะรู้สึกดีก็เถอะ แต่ที่มันต้องส่งเสียงอู้อี้ออกไปแบบนั้นเพราะหน้าทั้งหน้าแทบจะแนบอีกฝ่ายจนไม่มีช่องว่าง แต่อาจารย์มันก็ไม่ได้สนใจอะไร
เปล่า ผมไม่ได้ตอบรับว่ารู้สึกดี ถึงจะรู้สึกดีก็เถอะ แต่ที่มันต้องส่งเสียงอู้อี้ออกไปแบบนั้นเพราะหน้าทั้งหน้าแทบจะแนบอีกฝ่ายจนไม่มีช่องว่าง แต่อาจารย์มันก็ไม่ได้สนใจอะไร
“ที่จริงก็ชอบใช่ไหม เวลาพี่ทำแบบนี้”
ยัง ยังไม่หยุดลูบหัวอีก จะทนไม่ไหวแล้วนะ.. ร้อน ร้อนเว้ย
ผมยันตัวเองออกห่างในระดับหนึ่งแต่ยังไม่หลุดจากมือที่ลูบหัว
ส่วนมืออาจารย์อีกข้างก็ตวัดกอดไว้แน่นเกินกว่าจะลุกออกได้
ริมฝีปากก็ยังคลอเคลียตามใบหน้าจนรู้สึกวาบหวาม
“อาจารย์ อย่า ปล่อยผม อือออ อย่า บอกว่า อ.. ไม่ชอบ”
“ไม่ชอบแล้วทำหน้าแบบนี้ทำไมครับ”
อ่า.. ไม่ไหว ไม่ไหวแล้ว
ผมรู้สึกถึงความต้องการบางอย่างที่มันเริ่มจะวนเวียนในกาย
และมันคงเริ่มจะแสดงอาการทางสีหน้าแล้วด้วย .. ชิบละ
“พร้อมแล้วยังจะได้สอนให้”
“พร้อมบ้าอะไร ปล่อยผม”
.. ผมพยายามดันตัวเองจนหลุดเมื่ออีกฝ่ายคลายมือจากการกอดรัด แต่ยังไม่ทันจะลุกขึ้นได้ ไอ้อาจารย์บ้ามันก็พลิกกดผมลงกับเตียงอีกรอบ
.. ผมพยายามดันตัวเองจนหลุดเมื่ออีกฝ่ายคลายมือจากการกอดรัด แต่ยังไม่ทันจะลุกขึ้นได้ ไอ้อาจารย์บ้ามันก็พลิกกดผมลงกับเตียงอีกรอบ
แรงเยอะชิบ.. สู้ไม่ได้เลย
ครั้งนี้ข้อมือถูกรวบขึ้นเหนือศีรษะด้วยมือข้างเดียว .. ผมพยายามขยับให้หลุดจากการเกาะกุมแต่เหมือนกับว่าผมไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย
มันจะแรงเยอะเกินไปแล้ว
“อาจารย์..” ไม่รู้ผมมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าแบบไหน
รอยยิ้มมุมปากร้ายๆจึงกรากฏขึ้นบนใบหน้า
อาจารย์เอื้อมมือไปหยิบไอ้ซองเจ้าปัญหาที่ทำให้ผมต้องมานอนโดนกดอยู่ตอนนี้
ก่อนน้ำเสียงจริงจังเหมือนยามสอนจะหลุดออกมาอีกรอบ แต่แววตานั้นไม่ใช่
มันเจ้าเล่ห์และกวนตีนกว่าตอนฝึกสอนมากนัก
ผมชักไม่แน่ใจแล้ว ว่าเวลาที่อาจารย์อยู่ในโหมดจริงจังแต่ละครั้ง
มันจริงจังจริงหรือแกล้งทำ
“วิชาสุขศึกษาเคยสอนเรื่องการใส่ถุงยางใช่ไหม
ทุกครั้งเวลามีเพศสัมพันธ์ ป้องกันการท้อง.. ป้องกันโรค
และถุงยางมีสารหล่อลื่นที่ทำให้ไม่เจ็บปวด”
ผมเลิกคิ้วมองอีกฝ่าย
ถึงจะอยู่ในสภาพเสียเปรียบแต่ด้วยความเป็นห้องนรกแต่หัวกะทิ
ผมก็ไม่วายพูดอวดดีกลับไปอย่างลืมสถานการณ์
“หึ ใครไม่รู้ก็บ้าแล้วจารย์ เรื่องหมูๆ”
“แล้วนายก็เชื่อบทเรียนเหรอ”
เหมือนคำพูดที่ผมเคยใช้ถามอาจารย์ตอนฝึกสอนย้อนกลับมาถามผม
กวนตีนชะมัด
“โถ่จารย์ เรื่องแบบนี้ มัน..อะ
อื้ออ”
อีกแล้วครับ ไอ้อาจารย์สิงโตมันจูบผมอีกแล้ว .. แล้วความโรคจิตก็คือ ทำไมผมจะต้องพยายามจูบตอบมันด้วย .. การพยายามเอาชนะนี่เริ่มจะอาการหนักมากขึ้นทุกที
อา.. แต่ก็ รู้สึกดีแฮะ
สติเริ่มเตลิดไปไกลเกินกว่าจะควบคุมได้
ในขณะที่ปากยังคงทำหน้าที่ปิดกลืนเสียงที่ตั้งใจจะคุยเรื่องบทเรียน
มือของอาจารย์ก็ละจากการจับตรึงข้อมือ ล้วงเข้าไปสัมผัสผิวกายใต้เสื้อนอนตัวยาว
ผมรู้สึกตัวตอนที่มืออาจารย์สัมผัสผิว ปัดป่ายไปทั่วจนต้องขยับหนีจูบ ร้องท้วง
“จารย์ ทำอะไรเนี่ยย อ๊ะ”
ไม่ทันได้โวยวาย นิ้วเรียวที่ชำนาญการก็เริ่มปลุกเร้าสะกิดตุ่มไตจนเสียววูบ
ผมผวาเผลอโอบมือที่เป็นอิสระรอบตัวอีกฝ่าย
ในขณะเดียวกันกับที่กางเกงและชั้นในถูกปลดออกไปอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
รวดเร็วเกินไป ตกใจจนรีบดึงเสื้อลงปิด
“อะ..อาจาร… อืม” ไม่รอให้ได้ท้วงต่อ ริมฝีปากก็ประกบจูบลงมาอีก
เหมือนสะกดจิตให้งุนงง ผมรู้สึกตัวว่ากำลังตามเกมส์ไม่ทัน
มองการกระทำอีกฝ่ายอย่าง งงๆ มองดวงหน้าคมหล่อที่เห็นชัดเจนในระยะใกล้
ปล่อยให้ร่างกายต่อต้านและตอบรับอีกฝ่ายในขณะเดียวกัน
ท่ามกลางความมึนเบลอ ผมเห็นอาจารย์สิงโตฉีกซองถุงยางอนามัยออกก่อนหยิบวัตถุด้านในออกมา สอดนิ้วเข้าไปในถุงยาง
ทำเหมือนเวลาที่อาจารย์สอนสุขศึกษาสาธิตวิธีการใส่ถุงยางในห้องเรียน
อืม ในบทเรียนที่เคยเรียนก็มักจะสอนกันแบบนี้.. แต่ก็จบแค่นั้น
อืม ในบทเรียนที่เคยเรียนก็มักจะสอนกันแบบนี้.. แต่ก็จบแค่นั้น
“เวลาใส่ให้จับ สวมรูดลงไปแบบนี้ ไล่อากาศออกให้หมด
แล้วก็อย่าลืมเช็คด้วยว่าถุงยางรั่วไหม”
เสียงจริงจังเหมือนตอนสอน
ทำให้ผมอดตอบอย่างเด็กที่ชอบเอาชนะไม่ได้
“ใครมันไม่รู้บ้าง จารย์ เบสิคๆน่า”
โดยที่ลืมไปเลยว่ามานอนอยู่ใต้ร่างอีกฝ่ายแบบนี้ทำไม..
ผมแค่สะกดจิตตัวเองว่าลืมน่ะ แต่ตอนนี้ จริงๆคือ เตลิดไปไกลมากแล้ว ..
“รู้ก็ดี.. พี่จะสอนให้เก่งเลย..เก่งมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก เอามั้ย”
เกลียดคำว่าพี่ของอาจารย์มันชะมัด แล้วไอ้ที่ว่าสอน.. สอนอะไรตอนนี้ .. อือ ค่อยสอนได้ไหม ร้อน
“อือ”
ตอบรับแบบขอไปที ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดเรื่องอะไร
ตอบรับแบบขอไปที ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดเรื่องอะไร
ยิ่งโดนมือข้างที่ซุกซนช่ำชองนั่นปลุกเร้า
ผมเริ่มรู้สึกปวดหนึบในกายจนต้องพยายามหาทางระบายความรู้สึกนี้ออกไป
เผลอโอบรอบตัวคนที่คร่อม ดึงรั้งเข้าหาตัว
มือขยำเสื้อด้านหลังของอีกฝ่ายจนยับยู่ยี่ ทั้งยังเสียงแหบพร่าที่เปล่งออกไป
ราวกับไม่ใช่เสียงของตัวเอง ..
“อาจารย์ ผม..”
พูดไปแค่นั้น
เพราะไม่รู้ว่าตัวเองกำลังอยากจะพูดอะไรออกไปกันแน่ แต่เห็นรอยยิ้มของอีกฝ่าย
ยิ่งทำให้ผมตัดสินใจได้ว่าไม่พูดดีกว่า
“จะสอนข้อดีของถุงยางให้ อยู่นิ่งๆนะครับ อย่าเกร็ง
จะได้รู้ว่าทฤษฎีมากแค่ไหนมันไม่รู้จริงเท่าการปฏิบัติหรอก”
“อ่าา..”
พอมือที่ปลุกเร้าปัดป่ายตามร่างกายนั้นหยุดชะงักกะทันหัน ริมฝีปากที่คลอเคลียอยู่ใกล้หน้าตอนนี้ก็หยุดเช่นกัน ผมมองสบตาอีกฝ่าย
ก่อนได้ยินเสียงร้ายๆกระซิบใกล้
“จะสอนให้ ว่าถุงยางใช้ยังไง แล้วข้อดีคืออะไร”
ร่างกายรู้สึกเหมือนมีบางอย่างกดนวดวนบริเวณช่องทางด้านหลัง
ก่อนเรียวนิ้วที่สาธิตการสวมถุงยางจะกดเข้าไปในร่าง
สติเตลิดของผมแทบกลับมาครบร้อยทันทีเมื่อความเจ็บแล่นริ้ว
จนต้องขยับตัวหลีกหนีนิ้วของอาจารย์ที่แทรกเข้ามาเพียงแค่ข้อเดียว
“โอ๊ยยย เชี่ย จารย์ เจ็.. อือออ”
ยังไม่ทันสบถระบายความเจ็บปวด
คนที่รั้งตัวผมอยู่แนบริมฝีปากลงดูดกลืนกั้นเสียงร้อง ไม่รุนแรงแต่นุ่มนวล
ละเลียดหยอกล้อบนเรียวปากเหมือนจะปลอบประโลม
.. ส่งมือข้างที่ว่างยกขึ้นลูบหัวเหมือนปลอบเด็กน้อยที่งอแง .. แล้วมันก็แย่ชิบ ที่ผมเริ่มรู้สึกว่าความเจ็บปวดนั้นมันก็จางลง
.. ส่งมือข้างที่ว่างยกขึ้นลูบหัวเหมือนปลอบเด็กน้อยที่งอแง .. แล้วมันก็แย่ชิบ ที่ผมเริ่มรู้สึกว่าความเจ็บปวดนั้นมันก็จางลง
พอหยุดแรงขืนตัวหนี นิ้วนั้นก็กดลึกเข้ามาอีก ลึกจนรู้สึกหายใจติดขัด
และค้างอยู่แบบนั้น
ความลื่นของถุงยางและอาการเกร็งที่ลดลง
ทำให้ความเจ็บแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกแปลกๆที่เข้ามาแทนที่
อา.. ข้อดีของถุงยางอนามัย
แม้อาจารย์จะถอนนิ้วออก แล้วเปลี่ยนจำนวนนิ้วมากขึ้น จากสอง เป็นสาม..
มันก็ไม่ได้เจ็บเหมือนตอนแรกแล้ว ..
มันก็ไม่ได้เจ็บเหมือนตอนแรกแล้ว ..
ความรู้สึกอึดอัดยังไม่เท่ากับมวลความรู้สึกที่แล่นทั่วร่างตอนนี้
ยามที่อีกฝ่ายเล้าโลมทั้งส่วนบนและล่างในเวลาเดียวกัน
ยิ่งริมฝีปากที่พยายามจูบปลอบทุกครั้ง ..
“อ่า .. อ…”
ความต้องการที่ยังไม่มอดดับลงตั้งแต่แรก
มันเริ่มโหมกระหน่ำมากขึ้นจนผมทนไม่ไหว ร่างกายแสดงออกอย่างรู้ตัวเอง
“ไม่เจ็บแล้วใช่ไหม น้องคริส”
เรียวนิ้วที่ส่งเข้าๆออกๆ ทำให้ผมขยับตัวอย่างอึดอัด ..
จะผิดไหมถ้า ต้องการ ต้องการมากกว่านี้
แต่ให้ตายก็จะไม่พูดออกไป
ทั้งยังไม่ชอบใจเอาซะเลย ที่ถูกรังแกอยู่ฝ่ายเดียว .. ไม่ชอบจริงๆ
อีกฝ่ายทำท่าจะยันตัวลุกขึ้น
ถอนนิ้วออกจากช่องทางจนผมรู้สึกวูบโหวงในท้องแปลกๆ
อาจารย์สิงโตถอดถุงยางอนามัยออกจากนิ้ว โยนทิ้งข้างเตียง
ท่าทางโคตรดิบเถื่อน เชื่อเค้าเลย ว่านี่คืออาจารย์ฝึกสอนดีเด่น .. อยากให้ทุกคนเห็นชะมัด
ผมเอื้อมมือไปรั้งแขนอาจารย์ไว้ ในจังหวะที่อีกฝ่ายขยับตัวออกห่าง .. มาแกล้งกันให้เกิดอารมณ์แบบนี้ จะหนีไปง่ายๆเหรอ .. ไม่มีทาง
“อะไรครับ น้องคริส”
แววตาล้อเลียนมองสบกลับมาทันทีที่ผมรั้งแขนอีกฝ่ายไว้ .. ผมไม่ตอบคำถามนั้น แต่เคลื่อนมือลงไปที่หน้าท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ
ลูบไล้เบาๆผ่านเนื้อผ้า
อา.. อาจารย์หุ่นดีเหมือนกันแฮะ ไม่รู้เลย … ที่จริงก็อยากเห็น .. มากกว่านี้
ผมยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ขยับมือลงไปที่กางเกงบ็อกเซอร์ขาสั้น
ลูบไล้ส่วนอ่อนไหวผ่านเนื้อผ้าตัวบาง จงใจเอ่ยด้วยน้ำเสียงกวนประสาทใส่อีกฝ่าย
“ผมรู้มากกว่าที่อาจารย์พูดด้วยซ้ำ … ว่าก่อนจะใส่ถุงยางน่ะ มันต้องทำยังไง ให้ถุงไม่.. หลุด”
ด้วยความอยากเอาชนะ ผมไม่จำเป็นต้องหยุดคิดอะไรมากไปกว่านั้น ส่งนิ้วไปเกี่ยวขอบกางเกงดึงลงต่ำ
สัมผัสมือไปบนส่วนอ่อนไหวที่เริ่มแข็งขืน รูดรั้งตามความยาวจากเนิบช้า
จนกอบกุมไว้เต็มมือ ช้อนตามองคนที่กึ่งคร่อมอยู่บนร่าง
“.. ตื่นตัวเต็มที่เมื่อไหร่ ค่อยใส่ถุงยางได้
ใช่ไหมจารย์ หึ”
“ฮืมม คริส.. อย่าซน
อย่าหาว่าไม่เตือนนะ”
“เตือนแรงๆนะ เพราะผมจะไม่หยุด” ยิ่งเห็นยิ่งอยากแกล้ง ..
ผมรูดรั้งฝ่ามือเร็วขึ้นจนอาจารย์เป็นฝ่ายยกมือขึ้นจับข้อมือผมให้หยุดการกระทำ
“แล้วคริสรู้ไหมว่าถุงยางน่ะควรใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง
เค้าห้ามใช้ซ้ำ”
…หืม
“พอดีถุงยางมันมีอันเดียว งั้นพี่จะสอนให้ว่า
ระหว่างใส่กับไม่ใส่ มันจะต่างกันยังไง ไอ้ตัวแสบ”
.
.
“ถือว่าพี่ไม่ได้ทำอะไรผิดนะ.. ในเมื่อคริสบอกให้พี่สอน คนเป็นอาจารย์จะปฏิเสธคำขอของนักเรียนได้ยังไง”
“อ๊ะ.. จะทำอะไรจารย์ เดี๋ยว”
“อาจารย์สิงโ… อ๊าาา”
ไม่พูดให้เสียเวลามากไปกว่านั้น อาจารย์ดึงมือผมออกจากการจับกุม
จับส่วนอ่อนไหวถูเข้ากับช่องทางนุ่มที่เตรียมความพร้อมก่อนหน้านั้นแล้ว
เพียงส่วนหัวที่กดเข้ามาเพียงน้อย ความเจ็บก็กลับมาอีก
ถึงแม้ร่างกายจะพร้อมแค่ไหน แม้คราบยางที่ปะปนความหล่อลื่นที่สอดใส่ในช่องทางก่อนหน้า
ก็ไม่ช่วยให้ไม่รู้สึกหายเจ็บได้
ครั้งนี้มันเจ็บกว่าเดิมหลายเท่า
“อ๊า เจ็บ อาจารย์ ..มันเจ็บบบเว้ย
ออกไปก่อน”
“ชู่ว.. ใจเย็นๆ”
อาจารย์ปล่อยให้ความเป็นชายของตัวเองคาค้างอยู่แบบนั้น ไม่ขยับ
โน้มตัวลงจนผมต้องนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อส่วนที่เชื่อมกันเสียดสี
จูบเบาๆปลอบประโลมบนหน้าผาก ก่อนจะรู้สึกถึงมือข้างหนึ่งแตะสัมผัส
รูดรั้งบนส่วนอ่อนไหวของผมราวกับจะทำให้คลายความเจ็บ
.. ความรู้สึกย้ายไปรวมอยู่ตรงฝ่ามือแกร่งที่ขยับรูดรั้ง
ปรนเปรอให้ทันที
อืมม.. รู้สึกดี ..
“จารย์ อือออ”
ริมฝีปากเริ่มคลอเคลียอยู่แถวขมับ กดจูบย้ำๆ ปลุกเร้า
ปลอบประโลมจนผมเริ่มคล้อยตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาจารย์มันเก่งเรื่องอย่างว่าจริงๆ
สมองผมเริ่มมึนเบลอ ร่างกายผ่อนคลายลง
ก่อนจะรู้สึกถึงส่วนแข็งขืนที่ขนาดใหญ่กว่านิ้วเริ่มแทรกเข้ามาทีละน้อย
ยังเจ็บอยู่ เจ็บมากจนต้องยกมือขยำผมอีกฝ่าย
เกร็งตัวจนได้ยินเสียงอาจารย์ฮึมฮัมเสียงต่ำ
“ผ่อนคลายหน่อย คริส.. อ่า”
จังหวะที่เผลอสบตากับคนที่คร่อมอยู่บนร่าง
ความร้อนวาบก็แล่นริ้วทั่วใบหน้า อย่าทำหน้าแบบนั้นได้ไหม จารย์
… นี่เรากำลัง.. ทำอะไรกันอยู่
สอน..ใช่ สอนสุขศึกษาใช่ไหม แบบนั้นแหละ
ผมเบือนหน้าหนี รู้สึกเขินอายที่มาอยู่ในสภาพแบบนี้
แต่อารมณ์ก็พุ่งไปไกลเกินกว่าจะถอยกลับได้แล้ว
และผมเองก็ไม่มีความคิดที่จะหยุดมันด้วย ถ้าไม่นับความเจ็บเจียนตายตอนนี้น่ะนะ
“จารย์..”
ผมครางเสียงเบา อยากจะบอกไปอีกรอบว่าเจ็บ .. แต่ไม่ ไม่พูดหรอก
ผมครางเสียงเบา อยากจะบอกไปอีกรอบว่าเจ็บ .. แต่ไม่ ไม่พูดหรอก
“แบบไหนเจ็บกว่ากัน ใส่ถุงยางหรือ แบบสด”
ท่าทางแบดๆ รอยยิ้มร้ายที่อยู่เหนือร่าง
ถามคำถามที่ไม่รู้จะตอบไปว่าอะไร อีกฝ่ายอาจไม่ต้องการคำตอบด้วยซ้ำ
เมื่อเริ่มดันตัวเองเข้ามาจนสุด แล้วแช่ค้างไว้
“อ๊าาา … “
“ถ้าน้องคริสชอบแบบสด .. แต่ไม่อยากเจ็บแบบนี้ ก็ใช้เจลหล่อลื่นช่วยนะครับ แต่ขอโทษทีพอดีพี่ ไม่มี”
“ไอ้..”
ผมอดเอ่ยปากจะด่าคนยิ้มกวนใส่ไม่ได้ แต่ทันทีที่ขึ้นคำว่าไอ้ออกมา
ก็โดนจูบปิดปากอีกครั้ง แล้วถอนออกเร็วๆแบบจงใจกลั่นแกล้ง เหมือนสั่งสอนเท่านั้น
“บอกว่าไม่ให้พูดคำหยาบไง”
ยังไม่ทันได้เถียงอะไรต่อ .. อาจารย์สิงโตดันขยับตัว
ส่วนล่างที่เสียดสีอยู่ในช่องทางทำเอาผมดึงรั้งตัวอีกฝ่ายเข้ามาแนบชิด
ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยรู้สึก ก่อตัวขึ้นทีละน้อย
จากเจ็บปวดเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความเสียววาบ
โดยเฉพาะยามที่ถูกกระแทกลงไปบนจุดกระสันภายในกายย้ำๆราวกับรู้ว่ามันทำให้ผมรู้สึกดี
“อา อ่า อาจารย์ ตรงนั้น.. อืออ”
แรงตอดรัดเรียกเสียงครางต่ำ ลมหายใจหอบถี่ดังสลับกันในห้องที่มีเพียงเรา .. ตอนนี้
ผมและอาจารย์ฝึกสอนของผม..
ไม่สิ.. แฟนของผม อ่า นิสัยไม่ดีเลยแฮะ
ถ้าใครรู้เข้า .. ต้องแย่แน่ๆ
“อา.. ”
ผมยกมือขึ้นขยำกลุ่มผมของอีกฝ่ายอย่างระบายอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูง
อีกไม่นานคงจะแตะถึงฝั่งฝัน
พยายามเรียนรู้ .. ไม่เว้นแม้แต่เรื่องบนเตียง
เคล็ดลับของการเป็นเด็กเกเร แต่เก่งรอบด้าน
เพราะผมใฝ่รู้นั่นแหละตามจริง
.. เห็นอะไรก็อยากเรียนรู้ไปหมด
“อืมม ไม่ต่างจากที่คิดเลย ว่าเด็กเกเรอย่างนาย.. มันเก่ง ทุกเรื่องจริงๆ ถึงใจดีว่ะน้องคริสของพี่”
คำชมดิบเถื่อนไม่สมภาพพจน์ที่เพียรสร้างมายาวนาน .. แต่ผมก็เผลอยกยิ้มพอใจที่ได้เห็นมุมนี้ของอาจารย์สิงโตแค่คนเดียว ..
มันยิ่งทำให้รู้สึกว่า มีแค่ผม แค่ผมคนเดียวที่เป็นเจ้าของคนคนนี้ ในทุกมุมที่ไม่มีใครมีโอกาสได้เห็น
… เพียงแค่ผมคนเดียว
มันยิ่งทำให้รู้สึกว่า มีแค่ผม แค่ผมคนเดียวที่เป็นเจ้าของคนคนนี้ ในทุกมุมที่ไม่มีใครมีโอกาสได้เห็น
… เพียงแค่ผมคนเดียว
ยิ่งผมขยับตัวตาม พยายามตอบรับกลับแรงกระแทกของอีกฝ่ายด้วยการพยายามขยับสวนกลับรับในจังหวะเดียวกัน อีกฝ่ายยิ่งครางต่ำในลำคอ ..
ผมรู้ว่า อาจารย์ก็รู้สึกดีไม่ต่างกัน .. ใครจะยอมให้เขาสนุกอยู่ฝ่ายเดียวล่ะ .. ใครจะยอมอยู่เฉยๆให้รังแก
ผมรู้ว่า อาจารย์ก็รู้สึกดีไม่ต่างกัน .. ใครจะยอมให้เขาสนุกอยู่ฝ่ายเดียวล่ะ .. ใครจะยอมอยู่เฉยๆให้รังแก
“ชอบมั้ยครับ อาจารย์”
อารมณ์อีกฝ่ายก็คงพุ่งทะยานสูงไม่ต่าง กัดฟันข่มอารมณ์
พูดเสียงต่ำเครือด้วยแรงปรารถนา
“อาา..เรียกพี่สิงโตสิ..น้องคริส”
แรงกระแทกกระทั้น เร่งความเร็วขึ้น
ท่าทางอาจารย์ก็คงใกล้จะไม่ไหวเต็มที .. ผมเองก็เหมือนกัน สติมึนเบลอเริ่มพุ่งความรู้สึกไปที่ส่วนล่าง
ความรู้สึกร่างกายไหวไปตามแรงกระแทก .. แต่ผมก็ยังคงไม่หยุดพยายามสะท้อนกลับการสอนของอีกฝ่าย .. ไม่ยอมแพ้
แต่ความกวนตีนของผม มันยังคงทำงานได้ดีเสมอ
ยิ่งเมื่อเห็นอีกฝ่ายมีทีท่าหลุดการควบคุม นึกสนุกอยากแกล้งขึ้นมาบอกไม่ถูก
อาจารย์ทำตัวน่าแกล้งเองทำไม ผมไม่ผิดนะ
“ไม่.. อือ ถ้าผมไม่เรียก อาจารย์จะ..ทำไมครับ”
“คริส.. “
แววตาเต็มไปด้วยไฟราคะ
มองสบตาผม เราคงอยากเอาชนะไม่ต่างกัน
“อย่าดื้อ อืมม”
“ไม่เคยดื้อกับอาจารย์เลยนะครับ .. อาจารย์ปราชญา”
ผมส่งยิ้มกวนประสาทใส่อีกฝ่าย รั้งคออาจารย์โน้มลงมา
ในขณะที่ส่วนล่างยังคงกระแทกใส่ไม่เบาแรง ผมไล้ลิ้นเลียริมฝีปากอีกฝ่ายยั่วเย้าแกล้งๆ
แต่เหมือนครั้งนี้.. มันจะพลาดมหันต์
เพราะผมทำให้อาจารย์หลุดการควบคุมไปแล้ว
เมื่ออีกฝ่ายไม่เล่นด้วยแต่กระหน่ำลงบดจูบแบบผู้ใหญ่ที่หนักกว่าครั้งไหนๆที่ผ่านมา
ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาดูดดึงแรงจนหายใจไม่ออก
หันหนีก็ยังถูกกวาดต้อนจนได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามต้องการจนพอใจ
ทั้งรสจูบมอมเมา
และการกระแทกเร็วและรุนแรงกว่าเก่าที่ทำเอาผมกำลังจะถึงฝั่งฝัน
“อา อะ.. อ่า อาจารย์ อืออ … ไม่ ไม่ไหวแล้ว อ.. อ๊ะ”
แต่..อยู่ๆทุกอย่างก็หยุดลงกะทันหัน
ปล่อยให้อารมณ์ค้างเติ่งอยู่แบบนั้น ผมได้แต่กัดฟันกรอด สบถเบาๆ
“อาจารย์ ทำต่อดิ ..”
“ขอร้องพี่สิครับ น้องคริส”
เชี่ย.. ผมเริ่มเกลียดอาจารย์ก็ตอนนี้เนี่ยแหละ
ความรั้นตอนนี้ก็ไม่สู้ ความต้องการที่..ทนไม่ไหวอีกต่อไป
ยอมแล้วก็ได้วะ แม่งเอ๊ย จบเรื่องนี้เมื่อไหร่นะ อาจารย์.. เราเห็นดีกันแน่
“อาจารย์ ผม..ขอ นะ
อย่าหยุดแบบนี้ .. ไม่ไหวแล้ว นะครับ”
ลืมความอายวอนขอออกไปทั้งที่ร่างกายเริ่มสั่นระริก .. มือปัดป่ายข่วนหลังอีกฝ่ายระบายอารมณ์ที่โหมกระหน่ำแล้วไม่ได้รับการปลดปล่อย
แต่อาจารย์มันก็ยังนิ่ง ..
“เรียกพี่สิงโตสิครับ .. นะครับ”
เสียงทุ้มต่ำที่กดกลั้นอารมณ์ตัวเองไม่ต่าง แต่รอยยิ้มนั้นมันน่า.. ยันโครมจริงๆ ..
จะให้เรียกให้ได้เลยใช่ไหม
“.. ไม่เอา”
“งั้นไม่ทำแล้วนะ ง่วงแล้วเหมือนกัน”
“..เฮ้ย จารย์เดี๋ยว..”
พออีกฝ่ายทำท่าจะลุกแล้วทิ้งผมให้อารมณ์ค้างอยู่แบบนั้น
ได้แต่กัดฟันกรอด เอ่ยออกไปเสียงแผ่วปนแข็งกร้าวนิดๆ
แค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ..
“ พี่สิงโต.. ช่วยผมหน่อย นะ”
“หึหึ ก็แค่นั้น .. น้องคริส”
บทเพลงรักดำเนินต่ออีกครั้งด้วยแรงที่ไม่ลดลงกว่าก่อนหน้า
เหงื่อผุดพราวขึ้นเต็มใบหน้าคนที่เป็นอาจารย์ ดูเซ็กซี่ร้ายๆในแบบที่ผมไม่เคยเห็น
ยิ่งทำให้ความรู้สึกในกายถูกจุดขึ้นสูง
มันทำให้ผมลืมตัว.. กับความตั้งใจที่ว่าจะไม่เรียกในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ
“อ๊า แรงอีก .. อา ผม..อ่ะ พี่ สิง.. “
“เด็กบ้า อืมม เรียกอีกสิครับ พี่ชอบ”
“อ่ะ อ๊ะ.. พี่สิงโต อ๊า”
“น้องคริสของพี่ ฮืมม”
.
แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก
เสียงหอบหายใจจากการปลดปล่อย .. คราบคาวอุ่นร้อนที่ถูกฉีดเข้าไปในร่าง
ถุงยางที่ตั้งใจจะสอนแต่ไม่ได้ใช้งานตกอยู่บนพื้นห้อง
เตียงยับยู่ยี่เปรอะเปรื้อนคราบรัก กับเราสองคนที่นอนหอบหายใจหมดเรี่ยวแรง
มือเรียวยกขึ้นลูบผมคนในอ้อมกอดแผ่วเบา
ผมไม่วายใช้เสียงแข็งๆดื้อรั้นทักท้วงแม้จะหมดแรงเต็มที
“อย่าลูบ..ไม่ชอบ”
“ไม่ต้องชอบก็ได้ครับ แต่รักพี่มากๆก็พอ น้องคริส”
..ไอ้พี่สิงโต … ไม่สิ จารย์ ว๊อยย
ทำไมเผลอเรียกในใจไปได้
ผมซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดอุ่น ตาปรือปรอยเหนื่อยล้าเหมือนสติจะหลุด
อีกฝ่ายล้มตัวนอนข้างๆหลังเดินออกมาจากห้องน้ำอาบน้ำล้างตัวในขณะที่ผมไม่มีแรงแม้แต่อยากจะลุกไปไหน
ปล่อยให้อีกฝ่ายเช็ดทำความสะอาดให้
ในความมึนเบลอ มองเห็นภาพของจารย์สิงโต หยิบไพ่ A หัวใจ ขึ้นในระดับสายตา ไม่รู้ไปหยิบออกมาจากสำรับตอนไหน
ของกลางอีกหนึ่งชิ้นที่หล่นออกมาจากกระเป๋า
นอกจากนั้นยังมีปากกาเมจิกเขียน
ระหว่างสองฝั่งของไพ่ที่มีหัวใจเพียงดวงเดียวตรงกลาง
พี่สิงโต <3 น้องคริส
“ไพ่ไม่ครบสำรับ ต่อไปก็ไม่ต้องเล่นแล้ว
มันผิดกฎโรงเรียน การพนันมันไม่ดีนะ”
ผมไม่ตอบคำถามนั้น ซุกตัวเข้าหาไออุ่นมากขึ้น รู้สึกดี
กำลังจะเข้าสู่ภวังค์ .. เผลอพึมพำออกไปอย่างไม่รู้ตัว
อาจจะเพราะผมบังเอิญกวาดตาอ่านไพ่นั่นแหละ
“คริส..ก็รัก .. พี่ สิง..”
ผมรู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ .. อาจารย์เองก็ด้วย
ผมมันเด็กไม่ดี.. อาจารย์เองก็ไม่ใช่คนดีเหมือนกัน
แต่ว่า… ก็ช่างแม่งเถอะ ..
ถ้าไม่พูดออกไป.. ยังไงซะ มันก็เป็น 'ความลับ'
----
Subscribe to:
Posts (Atom)
SOFAR Always | CUT SOFAR.04
"อ๊ะ อา..ฮ๊า...." เสียงครางแว่วหวานในร้านที่เงียบงัน มือที่รูดรั้งยังไม่ผ่อนแรงจนความต้องการจะแตะถึงจุดสูงสุด .. ส่วนอ่อนไหวเริ...
-
. “ไอ้คุณสิงโต ไม่เอา ไม่เล่น” “ผมก็ไม่ได้เล่น” “ปล่อยเลย” “ปล่อยตรงนี้ก็เจ็บสิ” “คุณอย่ามากวนตีน ปล่อยผมลง” “เล่นสงกรานต์กับผมก่อน” “เฮ...
-
ผมยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ใบหน้าหล่อเหลาคมคายก้มลงมาในองศาอันตรายเหมือนจะฉกชิงความหวานจากริมฝีปากผมอีกครั้ง ผมเบี่ยงหลบ และได้ยินเสียง...
-
“มองผมแบบนั้น .. เคลิ้มกับผมแล้วอ่ะดิ” รอยยิ้มดูดีที่ยกขึ้นกวนๆ จากที่ทำหน้านิ่งๆปกติ พอคุณสิงโตมันยักคิ้วหลิ่วตา ส่งเสียงก...