เขาเบือนหน้าหนีสายตาคมของผมที่ทอดมองอย่างหลงใหล ยามผมส่งมือออกไปแตะสัมผัสเรือนกายขาวภายใต้เสื้อตัวบาง
อยากค่อยๆละเลียดชิมช้าๆ เอาให้สมค่าเสียหายที่ไม่เคยโดนขูดรีดหนักขนาดนี้มาก่อนในการเป็นคาสโนว่าห้าดาวอย่างผม
มือบางยกขึ้นจับแขนผมอย่างลืมตัว ยามที่ผมปลดเสื้อผ้าอีกฝ่ายออกจากร่างไปกองข้างเตียง ค่อยๆเล้าโลมสะกิดเรียวนิ้วหยอกล้อแผ่นอกบางหวังให้อีกฝ่ายคล้อยตาม แต่มือนั้นพยายามจะดันมือผมออก ไม่มีเสียงหวานเครือหลุดให้ได้ยินอย่างที่คิดไว้แม้แต่น้อย
หึ แต่ท่าทีแบบนี้ อย่าหลอกเสือนักล่าอย่างผมว่าไม่รู้สึกอะไร
แค่ไม่อยากแสดงออกให้ได้ใจใช่ไหม
“หืม อะไรครับ ไม่ชอบเหรอ”
พอเอ่ยแบบนั้นเขาคงนึกขึ้นได้ว่า การดีลกันเขาไม่ควรจะแสดงท่าทีขัดลูกค้าแบบนี้จริงไหม
อย่างน้อยเราก็แฟร์ๆต่อข้อตกลงกันมาตลอด
วันนั้นแม้แต่ผมเองก็ไม่ได้ใช้กำลังล่วงเกินเขาทั้งที่มีโอกาส ในเมื่อเราไม่ได้ตกลงกัน
และผมมั่นใจว่า เขาเองก็คงแฟร์ๆล่ะน่า
มันเป็นเรื่องของการแลกเปลี่ยนสิ่งที่เราอยากได้
มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี กับข้อตกลงในสิ่งที่เราดีลกันไปแล้ว
ไม่ใช่เรื่องของศักดิ์ศรีที่ว่าทำไมเขายอมให้ผมทำอะไรแบบนี้
แต่มันเป็นเรื่องของ การให้ความสำคัญ ผมว่าผมเข้าใจดี
เพราะสำหรับผม อยากได้ อยากลิ้มลอง
แลกกับของที่จะหาเมื่อไหร่ ใช้เท่าไหร่ก็ได้ คือ เงิน
สำหรับเขา ก็แค่เอาสิ่งที่เขามองว่าไม่ได้มีความสำคัญเท่าไหร่
เฉกเช่นเซ็กส์
แลกกับสิ่งที่มีค่ามากกว่า
ถึงมันยังไม่แจ่มชัด แต่ผมก็อยากรู้จักเขาพอๆกับอยากสัมผัสเขา มากขึ้นๆ
การแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่า เมื่อความต้องการของเราสวนทางอย่างเติมเต็มพอดี
อะไรจะดีไปกว่านี้ล่ะครับ
ท่าทางขัดใจแต่ก็ยอมลดมือลงไม่ต่อต้าน
แต่ก็ไม่ได้แสดงออกถึงการคล้อยตามยินยอม
คล้ายสมยอมแต่ก็เหมือนผมข่มขืนเขา
มันน่าตื่นเต้นดีจริงๆ
ร่างบอบบางเนียนมือไม่ว่าจะตรงจุดไหนที่ไล่มือปัดผ่าน สวยจนไม่อยากแบ่งให้ใครได้สัมผัส อารมณ์เหมือนของในตู้กระจกที่ติดป้ายมูลค่าราคาแพงที่อยากได้อยากจับจองเป็นเจ้าของไม่ว่าจะเสียเงินมากมายแค่ไหนก็ตาม
ผมซุกหน้าลงสูดดอมดมกลิ่นหอม หอมนุ่มมีเทสต์ราวกับน้ำหอมราคาแพง
ยามที่เขาหันหน้าหลบกลายเป็นว่าเปิดทางให้ผมกดริมฝีปากลงซอกคอขาวที่ยั่วยวนสายตา
อืม เป็นพนักงานม่านรูดที่น่าสนใจจริงๆ
ไม่มีเสียงครางหวานเล็ดลอดให้ได้ยิน ผมผละตัวออกเล็กน้อย มองคนใต้ร่าง
ปากบางเม้มแน่นไม่มองสบตา อีกไม่นานคงได้เลือด
ผมส่งมือไปนวดคลึงริมฝีปากนั้นเบาๆ เขาตกใจเล็กน้อย ดวงตาคู่สวยเบือนกลับมามองผมที่มองอยู่ก่อนแล้วอย่างเสียไม่ได้
“ผ่อนคลายนะครับ..”
ยิ่งมือแตะสัมผัสโดนปากบางๆ ผมก็อดใจไม่ไหวจนต้องก้มลงไปกดจูบแผ่วๆ
กดสัมผัสราวกับปลอบโยนและเล้าโลมไปในคราวเดียวกัน
แต่ก็ตามคาด แมวน้อยแสนดื้อด้านหันหนีเล็กน้อย ผมเลยยอมถอนจูบแผ่วเบานั่นออก
แค่ลองชิมเฉยๆ หวานแฮะ
“เรามาค่อยๆรู้สึกไปด้วยกันเนอะ”
.
.
กึก กึก กึก กึก
เสียงเตียงดังกึกกัก ดังในห้องเงียบๆเคล้าเสียงครางต่ำในลำคอของผม ..
“อืมมมม”
กับใครอีกคนที่ร่วมกิจกรรมเร่าร้อน ร่างกายสอดประสานกัน
คนอยู่ใต้ร่างมีเพียงเสียงหอบหายใจ ไม่ยอมส่งเสียงหวานๆเล็ดลอดให้ได้ยินซักที
ดื้อจังนะแมวน้อย จะทนได้แค่ไหนกัน
ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงเรื่อจางๆตามอุณหภูมิรุ่มร้อนที่ส่งผ่านจากผมไปยังเขา เหงื่อซึมตามไรผมยิ่งขับผิวขาวเซ็กซี่ ดูน่าขย้ำขึ้นอีก
ยิ่งผมแนบร่างชิดเข้า อีกฝ่ายยิ่งพยายามอย่างยิ่งที่จะหลบหน้าผม
น่ารักจริงๆ
เพราะท่าทางพยศไม่ยอมอ่อนข้อให้ มันทำให้อารมณ์พลุ่งพล่านกว่าเดิม สงสัยผมจะโรคจิตนิดๆจริงซะแล้ว
กึก กึก กึก
ผมส่งแรงขยับตัวเข้าหาเขาแรงกว่าเดิม
ลึกกว่าเดิม เร่งจังหวะอีกนิดราวกลั่นแกล้ง
กระแทกจนร่างด้านใต้สั่นไหวตามแรงส่งเป็นจังหวะ
“อ่าา” ผมครางต่ำ ยิ่งเห็นท่าทางเขายิ่งรู้สึกอารมณ์พุ่งสูงจนจะทนไม่ไหว
เอื้อมมือไปดึงมือเขาออกจากการพยายามปิดกั้นเสียงตัวเอง
ก้มลงกระซิบข้างหู
“..อยากได้ยินเสียงก็ต้องจ่ายอีกเหรอ หืม”
“อะ..ม..ไม่”
“ไม่เอาเงินแล้วเหรอ”
ผมแกล้งแหย่ไปงั้น ทั้งที่คิดว่าคำว่าไม่ของเขาอาจจะหมายถึง ไม่ให้ทำแรงแบบนี้
อีกฝ่ายเปลี่ยนมายันมือกับหน้าท้องผมเหมือนให้หยุดจังหวะความเร็วลง
แต่ผมกลับยิ่งอยากเห็นเขา..มากกว่านี้
“อึก..”
พนักงานตัวร้ายกัดฟันข่มอารมณ์ ไม่อาจปิดกั้นเสียงตัวเองได้อีก เพราะตอนนี้ผมส่งเรียวนิ้วไปเกี่ยวสอดประสานมือเขากดลงเตียงแทน ไม่ยอมให้กักเก็บอารมณ์ได้อย่างใจ
พอเห็นเขาเริ่มจะกัดเม้มปากกลั้นเสียงตัวเองอีกครั้ง จึงก้มลงจูบหยุดการกระทำนั้น
ละเลียดชิม บิดเปลี่ยนองศา ส่งเรียวลิ้นแตะเบาๆวอนขอให้อีกฝ่ายเปิดทางให้ แต่เขาก็ยังพยายามหันหนี
..น่ารัก น่ารัก มีแต่คำว่าน่ารักเต็มไปหมด
ผมส่งมือที่ประสานกดมือเขา คลายออกเปลี่ยนไปลูบไล้เส้นผมนุ่มมือ
มองสบตาเขาอย่างอ่อนโยนอย่างที่ผมเองก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าเคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อนไหม
“เจ็บไหมครับ”
“...”
“เจ็บบอกนะ จะเบาๆ”
อาจเพราะเขาไม่เหมือนเด็กขายที่คอยเอาใจเกินไปจนน่าเบื่อ
อาจจะเพราะเขาทำให้ผมรู้สึกว่าเราอาจมีอะไรที่คล้ายกัน
หรืออาจจะเพราะผมกำลังหลงเขาจนแทบมองไม่เห็นอะไรในสายตาตอนนี้
..ผมเลยรู้สึกอยากทะนุถนอมเขามากกว่าใครๆที่ผ่านมา..
อยากให้เขารู้สึกเหมือนกันกับผมบ้าง..
“อ่าา คริส”
“อ.. ฮ่ะ... อะ”
แรงกระแทกกระทั้นไม่เบานัก ทั้งอยากทะนุถนอมแต่ก็อยากจะทำให้เขาเป็นของผมไวๆ
มันช่างขัดใจเหมือนจะเป็นไบโพล่าร์
อีกฝ่ายเชิดหน้าหอบหายใจหนักทั้งใบหน้าขึ้นสีเรื่อ
น่ารักเย้ายวนจนผมต้องก้มลงจูบแผ่วเบา คลอเคลีย
“อย่าฝืนเลย เดี๋ยวก็รู้สึกดีขึ้น ให้ผมช่วยนะ”
แมวน้อยมองผม ยอมส่งเสียงอืออาอย่างสุดจะกลั้น ..
แค่นิดเดียวผมก็พอใจแล้วครับ
ยิ่งได้สัมผัสไปทั่วร่างกายเขา ..
ยิ่งเราบดเบียดใกล้ชิดกัน ผสานเป็นหนึ่งเดียวมากเท่าไหร่
มันยากจะอธิบายความรู้สึก ... ความรู้สึกดีแบบนี้
ที่มันไม่เกิดขึ้นมานานมากแล้ว
เหมือนติดยาเสพย์ติด
เท่าไหร่ก็ไม่พอ
อยากยื้อเวลาไปเรื่อยๆจนเช้า
.
.
กึก กึก กึก กึก
"อ๊..ะ ... ... "
"โทษที เจ็บเหรอ ผ่อนคลายหน่อย แค่นี้ผมก็จะแย่แล้ว อาห์.. แน่น...ชิบ"
ผมสบตากลมโตหงุดหงิดที่น่าหลงใหล ยามประกบปากจูบซ้ำๆ
ชอบเหรอ ชอบแบบนี้ใช่ไหม
ดวงตาเกเรอ่อนความแข็งกร้าวลงเล็กน้อย ยามที่ผมขยับริมฝีปากจูบเขาอย่างอ่อนโยน ลูบปัดเส้นผมปรกหน้าชื้นเหงื่อให้พ้นทาง
ประกายวูบไหวแค่ชั่วครู่ก่อนที่คนหลงเคลิ้มรสสัมผัสจะรู้สึกตัวและเริ่มพยศต่อต้านอีกครั้ง
โถมกายกดกระแทกเข้าไปซ้ำๆ มอบรสจูบย้ำๆ
ฟังเสียงครวญครางที่กั้นเก็บความรู้สึกเต็มทีแต่ก็ยังน่าฟัง
ยอมแล้วคนดี
"อ่าาาห์.. อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ"
".. อะ... อ.. อ๊า..."