Sunday, February 16, 2020

MOTEL | CUT.43 - Sweat it out





“มองผมแบบนั้น .. เคลิ้มกับผมแล้วอ่ะดิ”


รอยยิ้มดูดีที่ยกขึ้นกวนๆ จากที่ทำหน้านิ่งๆปกติ 
พอคุณสิงโตมันยักคิ้วหลิ่วตา ส่งเสียงกวนประสาทน่าหมั่นไส้แล้วก็..


ผมยกมือขึ้นดันหน้าอีกคนให้หันไปทางอื่นด้วยความหงุดหงิดกับสายตาเจ้าชู้นั่นยังไงบอกไม่ถูก


เฮอะ ดูดีตายล่ะ!



ถึงแม้ในความเป็นจริงก็ไม่อยากจะเชื่อว่า ยิ่งยิ้มแบบนั้นและเพราะนิสัยแบบนั้น
เสน่ห์ของผู้ชายคนนี้ดูจะเพิ่มมากขึ้นอีกเป็นทวีคูณ



“หลงตัวเอง”

“หึหึ แล้วคริสล่ะ หลงผมรึยัง”


เขาจับมือผมที่ดันหน้าเขาออกไว้ได้ในเสี้ยวนาที 
ทั้งที่คิดว่าตัวเองเร็วแล้วแท้ๆ แต่ก็ไม่เคยทันไอ้พวกมากเล่ห์



คนไม่สำนึกยังจะหัวเราะกวนๆ แววตาคู่นั้นก็ยังไม่เลิกจ้องมองมา
ไม่แค่จ้องตากันอย่างเดียวแล้วคราวนี้ 



ดวงตาคู่คมเริ่มใช้สายตากวาดมองจากใบหน้า ลำคอ มองลงต่ำไปทั้งตัวก่อนส่งสายตาขึ้นมามองกันอีกรอบ



“คริสว่า.. ระหว่างทำงานให้เสร็จ กับทำการบ้านให้เสร็จ อะไรสนุกกว่ากัน”



.. ไอ้คุณสิงโตมัน..
โรคจิต!




“จะทำอะไรก็ทำ! เสียเวลา”


ผมเอ่ยบอกปัดๆ ไม่รู้ทำไมยิ่งเห็นไอ้คุณสิงโตทำหน้าทะเล้นเหมือนพอใจเวลาโดนผมด่า
ยิ่งไม่อยากจะพูดดีๆด้วยให้ได้ใจเอาซะเลย



“อูยย ใจร้อนเหรอคนดี .. ของแบบนี้ ใครเขาอยากจะรีบๆทำล่ะ”


ป่วยการจะต่อล้อต่อเถียงด้วย
ไม่รู้ว่าผมทำหน้าแบบไหนใส่เขาไปหลังประโยคนั้น เพราะคุณสิงโตมันก็เอาแต่หัวเราะร่า




ไม่รู้รึไง พวกที่เขามาม่านรูดกัน ในเวลาอันจำกัดแบบนี้ ทำๆไปให้เสร็จไม่คิดมาก
.. พวกลูกค้าก็แบบนี้กันทุกคน

แต่อาจจะเว้นคนมากปัญหาไว้คนหนึ่ง ข้อต่อรองเยอะเหลือเกิน ใช้เวลาคุ้มเหลือเกิน





“ผมยังอยากเห็นคริสทำหน้าตาท่าทางแบบนี้อีกนานๆทั้งคืน”

“แบบนี้มันแบบไหน”


อดถามออกไปด้วยความสงสัยไม่ได้



ในเวลาแบบนี้ที่ไม่เคยคิดตั้งคำถาม 
อยู่ๆผมก็หลุดกลายเป็นคนไม่ปกติ ทำตัวเหมือนกับเขาไปซะได้

ในเวลาแบบนี้ .. ทำไมยังทำอะไรเสียเวลาอยู่กับบทสนทนาไร้สาระ

ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน



รู้ตัวอีกที ก็ตอนที่ผมยังกระพริบตาปริบๆรอฟังคำตอบ
รอจนอีกฝ่ายโน้มตัวลงมาใกล้ ริมฝีปากอุ่นปัดผ่านข้างแก้ม ไล่ไปยังริมฝีปากที่ตอนนี้ห่างกันแค่ไม่กี่เซ็น



“แบบที่ .. มองแต่ผมคนเดียวไง”



สัมผัสอุ่นร้อนกดลงบนเรียวปาก ผมปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจ 

ช่างเถอะ 
ยังไงก็ห้ามคนเอาแต่ใจไม่ได้อยู่แล้ว


ปล่อยตามใจ

แม้กระทั่งครั้งนี้ที่เขาพยายามแตะลิ้นจะรุกล้ำเข้ามา 
ผมคงต้องโทษตัวเองที่เผลอหงุดหงิดจนเผยอริมฝีปากออกให้เรียวลิ้นอุ่นร้อนส่งเข้ามาหยอกเย้า



“อือ”


จุ๊บ จุ๊บ




ผมยกมือขึ้นสอดลูบผมสีดำสนิทของคุณสิงโตอย่างหยุดตัวเองไม่ได้

ไม่รู้อะไรสั่งให้ทำแบบนั้น



อาจจะเป็นเพราะรอยยิ้มกวนประสาทนั่น ที่ทำให้เผลอไป ไม่อยากจะนอนเฉยๆให้เขารังแก
คงจะเป็นแบบนั้น ล่ะมั้ง



เนิ่นนานซักพักที่อีกฝ่ายถอนปากออกให้เราทั้งคู่ได้กอบโกยเอาอากาศหายใจ



“อืมม คริส”

เสียงทุ้มที่ติดจะสั่นด้วยแรงอารมณ์ปรารถนาเอ่ยแผ่วๆ 
และเพราะผมขี้เกียจจะฟังหรือไม่ก็กลัวเขาจะพูดถามอะไรที่ตอบไม่ได้


..สิ่งที่ผมยังตอบตัวเองไม่ได้เลยว่าทำไม 
ตอนนี้ถึงได้.. ใจเต้นแรงแบบนี้ 
ทั้งที่เราก็ทำแบบนี้กันมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง



ผมรีบเอามือที่จับเส้นผมเขาออก เร็วจนดูมีพิรุธเกินปกติ 
เอ่ยออกไปเท่าที่พอจะนึกได้ .. ก่อนที่อีกฝ่ายจะทันพูดอะไรออกมา


..จะยิ้มอะไรนักหนาวะไอ้คุณสิงโต




“พูดมากน่า”

ส่งเสียงหงุดหงิดกลบเกลื่อน 
กระชากคอเสื้อเขาเข้ามาใกล้แล้วประกบจูบกั้นเสียงน่ารำคาญ 


..ผมหลับตาลง รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวเกินกว่าจะทนมองหน้าเขาได้ 



รู้ก็แต่ว่า .. รสจูบหวานๆเคล้าราคะในตอนแรก เหมือนจะยิ่งทวีความรุนแรงให้มัวเมายิ่งขึ้นไปอีก


เสียงครางต่ำๆ อย่างพึงพอใจ สลับกับเสียงหอบยามที่เราผละออกจากกันเล็กน้อยก่อนจะฉกชิมครั้งแล้วครั้งเล่า

หลายต่อหลายครั้ง มันทำให้ผมสมองขาวโพลนแทบคิดอะไรไม่ออก



“อืออ”

แฮ่ก แฮ่ก



“คุณสิงโต .. ห..หยุดก่อน”

“ขออะไร ยากจังครับ”



มือแกร่งเลื่อนลงต่ำอย่างชำนาญ แม้ปากจะหยอกล้อประกบจูบพรากลมหายใจกันอยู่แบบนั้น 
เขาก็ยังสามารถปลดกางเกงผมลงมาได้อย่างง่ายๆในเวลาอันรวดเร็ว

เสื้อที่ใส่อยู่ก็เหมือนกัน



ผมยกมือดันอกอีกฝ่าย ดันตัวเองไว้ ไม่เชิงต่อต้านแค่รู้สึกไม่สบายตัวตอนที่ถูกดึงเสื้อออกไปอย่างมึนงง ตอนไหนไม่ทราบได้

รู้สึกตัว กลับมามีสติอีกทีก็ตอนที่มือผมปัดไปโดนโน้ตบุ๊คข้างตัวจนหน้าจอที่เปิดอ้าอยู่พับลงมาปิดสนิท




ฟึ่บ


.. ดีแค่ไหนที่แค่ปิดจอ ไม่หล่นลงเตียงไปตามชิ้นส่วนเสื้อผ้าที่ลงไปกองกระจัดกระจายบนพื้นพวกนั้น




“อุ๊บ เกเรจังครับ ไม่อยากให้ผมทำงานก็บอก ดีนะเนี่ย เซฟงานแล้ว”


เขาเอ่ยหยอกๆ เอามือเลื่อนดันโน้ตบุ๊คให้ห่างออกไปอีก เห็นแบบนั้นผมก็อดกวนกลับบ้างไม่ได้



“ทำใหม่ก็ได้นี่กลัวอะไร เก่งไม่ใช่เหรอ นีกว่าใช้เงินแก้ปัญหาได้ทุกอย่างซะอีก”

“แต่คนเก่งๆอย่างผมก็มีอย่างนึงที่ทำไม่ได้นะ”

“...”



ผมไม่ตอบอะไร ปล่อยให้อีกฝ่ายเบียดตัวเองคลอเคลียจนเราสองคนแทบไม่มีอากาศผ่าน 
เขาพึมพำโดยไม่มองหน้า




“ยอมแพ้เรื่องคริสไม่ได้ซักที”








.




.




จ๊วบ จุ๊บ



“...”


ความรู้สึกวาบหวามปนเจ็บจี๊ดแล่นริ้ว ตอนที่เรียวปากขบเม้มสร้างรอยรักไม่รู้กี่รอย และดูจะไม่หยุดง่ายๆจนผมต้องเอ่ยปากท้วง



“คุณสิงโต! บอกว่าอย่าทำตรงนั้นไง”

“ทำไมล่ะครับ”


.. ยังจะมีหน้ามาถาม..



“ก็เดี๋ยวพ่อผม..”

ผมกำลังจะด่าเขา แต่พอนึกไปถึงว่าคนอย่างคุณสิงโตถ้ามันรู้มันจะยิ่งได้ใจรึเปล่า
..ถ้ารู้ว่าพ่อผมกำลังสงสัยว่าลูกค้าคนนี้มัน ไม่เหมือนพวกลูกค้าปกติ..

ฮึ่ย



“?ทำไมนะครับ”
คนก้มหน้าก้มตาทำรอย เงยหน้าขึ้นมองตาวิบวับ



“ไม่มีอะไร เอาเป็นว่า อย่าทำสูงขนาดนั้น อ.. โอ๊ย..คุณสิงโต!”


ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เมื่อไอ้คนกวนตีนกดปากลงตรงจุดเหนือบริเวณที่ปกเสื้อจะปิดได้ขึ้นมานิดหน่อย



“ผมบอกว่าอย่าไงเว้ย”

“นี่ไม่เห็นจะสูงซักหน่อย ฮ่าๆ แกล้งเล่นน่า ไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวก็จางแล้ว ผมทำเบาๆเอง”




ผมส่งสายตาคาดโทษให้เขา ยกมือขึ้นถูไปมาตรงรอยคิสมาร์กแสบๆ



“ไอ้.. อ๊ะ อือ”

ยังไม่ทันจะอ้าปากด่าซ้ำ คนนิสัยไม่ดีก็ซุกหน้าเข้ากับซอกคอ มืออยู่ไม่สุขเริ่มปัดป่ายลงต่ำยังจุดอันตราย

ผมสะดุ้งเฮือก ร่างกายเริ่มตอบสนองตามธรรมชาติ เมื่อมือเขาเริ่มเล้าโลมถูกจุดจนร่างกายร้อนรุ่มเหมือนถูกไฟความต้องการแผดเผาขึ้นทีละน้อย



พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ส่งเสียงน่าอายออกไป จะนานแค่ไหนก็ยังไม่ชิน


“มองผมสิครับ.. อืม รู้สึกดีไหม อยากได้ยินเสียง”


ได้แต่เม้มริมฝีปากแน่น พอจะตอบออกไปว่า 
ไม่มีทาง.. 

กลายเป็นว่าคนเจ้าเล่ห์ยิ่งเร่งเร้ามือข้างที่สัมผัสอยู่ตรงส่วนอ่อนไหว ทำเอาผมเผลอครางอืออาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้



“ดีไหม”

“อ..อ่า อ๊า”

“หรือมากกว่านี้ดี”


“อืออ จ.. เจ็บ! ออกไปก่อนคุณ”

“ใจเย็นๆ ผมจะค่อยๆเป็นค่อยๆไป”


ความรู้สึกของเรียวนิ้วที่ค่อยๆกดเข้ามาในร่าง
รู้สึกอึดอัดปนเจ็บเสียด แม้ฝ่ามือด้านหน้าและริมฝีปากที่กดจูบปลอบประโลมจะช่วยให้รู้สึกดีก็เถอะ



มันเป็นความรู้สึกที่ .. ไม่ดีเลย
ไม่ดีเลยที่ดันรู้สึกดี



“ผ่อนคลายหน่อย อ่าา.. นี่ขนาดผมยังไม่..”

“อึก..อ.. เบาๆ”


“นี่..ตั้งใจจะฝึกความอดทนกันรึเปล่าครับเนี่ย”


เสียงพร่าปนหอบหายใจหนักๆของคนที่ซุกหน้าอยู่ใกล้ๆ ทำเอาผมต้องขยับบิดตัวไปมาอย่างอึดอัด
ทั้งความรู้สึกแปลกๆที่ก่อตัวขึ้นหนักกว่าเดิม


“คุณสิงโต..”

“อืมม”



“อย่าใกล้”


ผมเอ่ยพึมพำออกไปด้วยเสียงแหบพร่าไม่ต่างกัน
อยากจะยกมือดันอีกฝ่ายให้หยุดซุกหน้าถูไถไปมากกว่านี้แต่เหมือนไม่มีแรงขึ้นมาดื้อๆ



“ไม่ใกล้งั้นเข้าไปเลยได้ไหมครับ”


ถ้านี่เป็นคำขออนุญาต 
คงเป็นคำขอที่กวนประสาทที่สุด




.


.



“อ๊ะ อ๊า อ.. ฮ๊า”


“ตรงนี้เหรอครับ”

“...”


ความรู้สึกทรมานปนรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกกำลังแล่นริ้วไปทั่วร่าง

แต่ให้ตายผมไม่บอกออกไปให้คุณสิงโตมันรู้แน่ๆ



“ไม่เหรอ หรือแบบนี้”


แรงกระแทกกระทั้นที่เพิ่มจังหนักหน่วงขึ้นทำเอาผมต้องผวากอดอีกฝ่ายแน่นอย่างไม่รู้ตัว

..กวนตีนกันชัดๆ



พอไม่ตอบ เขาก็ยิ่งเหมือนจะแกล้งกัน




“หรือเร็วกว่านี้”



กึก กึก กึก

เสียงเตียงดังกึกกักเคล้าเสียงสอดประสานกัน



ผมรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิร่างกายที่ร้อนขึ้นของตัวเองจนแทบหลอมละลายตรงนั้น
ยิ่งเขาเบียดร่างเข้ามาแนบชิด มันร้อน..ทั้งร้อน ทั้งอึดอัด รู้สึกดีจนจะหายใจไม่ออก


“คุณสิงโต”


ตอนที่เขากระแทกกายเข้าออกเป็นจังหวะแบบนั้นซ้ำๆจากเนิบช้าค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไม่รีบร้อน
พอร่างกายเริ่มปรับตัวได้กับความร้อนรุ่มที่สอดใส่เข้ามา
ความเจ็บปวดในตอนแรกมันหายไปเหลือแต่ความรู้สึกเสียวซ่าน

ปฏิเสธไม่ได้ว่า
..มัน ดี


ลืมไปหมดที่ตั้งใจไว้ว่าจะไม่พูดไม่แสดงอาการให้เขารู้

ไม่รู้ว่าผมเรียกชื่อเขาออกไปทำไมหรือตอนไหน

บังคับตัวเองไม่ได้ตอนที่ยกมือขึ้นขยำศีรษะคนที่คร่อมอยู่บนร่างคลายความ... หงุดหงิด
หาที่ระบาย


อ่า


“รู้สึกดีไหม..”


คำถามซ้ำๆ ที่จะให้ตอบให้ได้ใช่ไหม

ฝันไปเถอะ




รู้สึกดีจริงๆ
จะรู้สึกแบบนี้ไหมถ้าไม่ใช่เขา..



ผมปรือตามองคนที่มองมา ไม่อาจรู้ได้ว่าตัวเองกำลังทำสีหน้าแบบไหนในตอนนี้
รู้ก็แต่สายตาที่มองมานอกจากความลุ่มหลง มันอาจจะมีอะไรอยู่มากกว่านั้น


ไม่รู้ว่าผมมองเขาแบบเดียวกับที่เขามองผมไหมในตอนนี้

ไม่รู้เหมือนกัน
แต่ว่านะ..



ผมมองรอยยิ้มของคนที่ไม่เปลี่ยนไปจากวันแรก


ไอ้คนที่ไม่เคยขอแต่ก็ยังตามวุ่นวายไม่ว่าจะตอนไหน
ไอ้คนที่ทำให้ชีวิตผมต้องสับสนวุ่นวาย

คนที่.. กวนประสาทอยู่ตลอดเวลา กวนสายตา
..กวนใ..

กวนไปหมดทุกอย่างนั่นแหละ

ผมน่ะ..

ไม่น่ามาเจอเขาเลยในวันนั้น
ถ้ารู้ว่าวันนี้




“...”

ผมยกมือขึ้นเกลี่ยปัดผมชื้นเหงื่อของคนที่ร่วมสัมพันธ์ลึกซึ้งกันอยู่ตอนนี้





“พูดมากน่า.. คุณสิงโต”


“ฮ่ะๆ .. ดีจัง คริสตอบคำถามผมซักที”




คำถามบ้าบออะไร..
ผมไปตอบเขาตอนไหนกัน


ผมปล่อยความสงสัยไว้แบบนั้น
ปล่อยตัวเองจมไปกับความรู้สึกดีๆ


ที่น่าจะไม่ใช่ ... แค่เซ็กส์... เหมือนที่ผ่านมา







----อ่านต่อในเด็กดี----










No comments:

Post a Comment

SOFAR Always | CUT SOFAR.04

 "อ๊ะ อา..ฮ๊า...."   เสียงครางแว่วหวานในร้านที่เงียบงัน มือที่รูดรั้งยังไม่ผ่อนแรงจนความต้องการจะแตะถึงจุดสูงสุด .. ส่วนอ่อนไหวเริ...